ทำเนียบรัฐบาล 26 เม.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการกรมปศุสัตว์
5 คน ทุจริตจัดซื้อวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าปี 2559 ไม่มีใบรับรองอย.และวัคซีนไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านเชื้อพิษสุนัขบ้า
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในงาน Meet the Press ณ ตึกนารีสโมสร
ทำเนียบรัฐบาล ว่า
หลังจากได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จริงกรณีการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าของกรมปศุสัตว์ได้ผลสรุป
พบว่า มีการตรวจรับวัคซีน 1 ล้านโดส ในปี 2559 ไม่มีใบรับรองอย.
เพราะเมื่อไปฉีดในสัตว์เลี้ยงไม่พบว่าปฏิกิริยาต่อต้านเชื้อพิษสุนัขบ้า จึงตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดทางวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
5 คนเป็นข้าราชการระดับปฏิบัติการ
ส่วนกรณีมีการระบุว่า ภรรยาผู้บริหารกรมปศุสัตว์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าซื้อขายวัคซีนผิดกฎหมายนั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเอาผิดได้ แต่หากใครมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมแจ้งมาให้พิจารณาได้
นอกจากนี้กรมกรมปศุสัตว์ได้แบ่งสัดส่วนการฉีดวัคซีนให้กับสัตว์เลี้ยงเร่ร่อน 1 ล้านตัว ส่วนอีก 9
ล้านตัวเป็นสัตว์เลี้ยงมีเจ้าของ เป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการ
ส่วนกรณีนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐ
หลังจากได้เจรจากับสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ได้แจ้งกับสหรัฐรับทราบว่าไทยยอมรับข้อกำหนดของสหรัฐเกี่ยวกับมาตรฐานโครงการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ
(CODEX) ของสหรัฐ
เกี่ยวกับสารเร่งเนื้อแดง แต่พฤติกรรมการบริโภคสุกรของคนไทยไม่เหมือนกับสหรัฐ
เพราะรับประทานทั้งเครื่องในและส่วนต่าง ๆ เพื่อประกอบอาหารหลากหลาย ทั้งลาบ ต้มยำเครื่องใน
จึงเสนอตั้งคณะกรรมการร่วมทำการวิจัยพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทยร่วมกันระหว่างไทย-สหรัฐ
เพื่อรอผลศึกษา 1 ปี ก่อนพิจารณาข้อเสนอนำเข้าสุกรจากสหรัฐ
นายกฤษฎา กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการไทยนิยมแข้มแข็ง
โครงการด้านการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตรกว่า 24,000 ล้านบาทตามแนวทางประชารัฐ
ว่า ขณะนี้กำหนดให้ประชาคมในหมู่บ้านเพื่อเลือกโครงการมาดำเนินการในชุมชน
โดยมีตัวแทนชาวบ้าน 2 คนมาช่วยตรวจรับงาน และทำหนังสือถือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือสตง.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือปปท.
มาช่วยตรวจสอบโครงการ เพื่อปรับมิติทำงานใหม่
ไม่ใช่โครงการเบิกจ่ายแล้วเสร็จแล้วมาตรวจภายหลังเพื่อหาความผิด ยอมรับว่าการพัฒนา
อบรม ชาวบ้านจะได้รับเงินค่าอบรม 600 บาทต่อวัน หรือ 1,200
บาทต่อรายในช่วง 2 วัน และยังได้ค่าแรงขุดล่องน้ำ ชลประทาน จำนวนเป้าหมาย 2.3
ล้านคน เพื่อให้เงินกระจายลงสู่ชุมชน