อุบลราชธานี 23 เม.ย.- อุตุฯ เตือนระยะนี้อากาศเปลี่ยนเร็วมีทั้งฝนฟ้าคะนองและร้อนจัด แพทย์ สคร.10 อุบลฯ ห่วงสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะผู้ทำงานกลางแจ้งหรือเล่นกีฬา แนะวิธีป้องกันและช่วยเหลือหากพบป่วยเฉียบพลัน
นพ.ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 (สคร.10) จังหวัดอุบลราชธานี เตือนประชาชนดูแลสุขภาพจากภาวะอากาศร้อนจัดว่า อุณหภูมิปกติของร่างกายมนุษย์อยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส หากเผชิญกับอากาศร้อนมากขึ้นร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน ทำให้เกิดโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก และอาจเสียชีวิตได้ สำหรับกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคลมแดด ได้แก่ ผู้ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง อาทิ งานก่อสร้าง เกษตรกร และการเล่นกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน อดนอน หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด ซึ่งการป้องกัน คือ เลี่ยงอยู่กลางแดดร้อนจัด หากจำเป็นให้กางร่มหรือใส่หมวก ดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ โดยไม่ต้องรอหิวน้ำ ไม่ปล่อยให้เด็กเล็กหรือผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่ไว้ในรถจอดตากแดดเป็นเวลานาน เพราะอาจเสียชีวิตจากอุณหภูมิร้อนได้ หากรู้สึกหิวน้ำมาก ตัวร้อนแต่เหงื่อไม่ออก หายใจถี่ ปากคอแห้งให้รีบไปพบแพทย์ทันที
นพ.ดนัย กล่าวด้วยว่า อาการของโรคลมแดด คือ ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ เกินกว่า 40 องศาฯ หายใจเร็ว ไม่มีเหงื่อออก อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ความดันต่ำ มึนงง ชักเกร็ง และหมดสติ ส่วนการช่วยเหลือในเบื้องต้นให้นำผู้ป่วยเข้าพักในที่ร่ม นอนราบยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ปลดเสื้อผ้าชั้นนอกเพื่อให้ร่างกายระบายความร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามข้อพับ ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ แต่ไม่ควรใช้ผ้าเปียกคลุมตัว เพราะจะขวางการระเหยของน้ำออกจากร่างกาย แล้วรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669 นำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี รายงานสภาพอากาศช่วงวันที่ 22-23 เม.ย.นี้ว่า จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 36-41 องศาฯ ส่วนวันที่ 24-28 เมษายน มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาฯ สูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ขอให้ระมัดระวังสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้.-สำนักข่าวไทย