fbpx

พม.คาดสิ้นเดือนรู้ผลสอบวินัยทุจริตเงินคนจน

สำนักข่าวไทย 19 เม.ย.- อธิบดี พส.สอบวินัยทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ผอ.ศูนย์ฯ ขอนแก่นและพวก 1คนและพักราชการแล้ว คาดสิ้นเดือนนี้รู้ผล


นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีที่ เพจดังในเฟซบุ๊ค “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ออกมาเปิดเผยข้องมูลการสอบวินัย นางพวงพยอม จิตรคง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ว่า ไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการสอบวินัยไม่ร้ายแรง ทั้งที่พัวพันกับการทุจริต  ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 2 คนเป็นพยานให้กับน้องแบม นักศึกษาที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ก็ถูกพ่วงไปด้วยนั้น  ว่า ที่ผ่านมา พส.เปิดเผยและพูดผ่านสื่อตลอดว่าทำอะไรไปบ้าง 


ซึ่งความคืบหน้าการตรวจสอบ การทุจริตเงินสงเคราะห์ของหน่วยงานในสังกัด พส. ในส่วนการสอบสวนทางวินัย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว 2 ศูนย์ คือขอนแก่นและเชียงใหม่ ซึ่งจะทราบผลปลายเดือนเมษายนและพฤษภาคมตามลำดับ โดยในส่วนของศูนย์ฯจ.ขอนแก่น พส.มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัย 2 ชุด คือการสอบวินัยร้ายแรง กับผอ.ศูนย์ฯ และหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการ เนื่องจากมีมูลว่าอาจทุจริตจริง 


ขณะนี้ทั้ง 2 ได้ถูกพักราชการโดยขาดจากเงินเดือน และสวัสดิการ ไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม และอีกคำสั่งคือการสอบทางวินัยไม่ร้ายแรง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งนอกจาก ผอ.และหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไมถึงสอบวินัยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนทั้งที่เป็นพยานให้กับน้องแบม นักศึกษาที่ออกมาเปิดโปงนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีพฤติกรรมเข้าข่ายทำผิดระเบียบบางอย่าง ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงต้องถูกสอบวินัยไม่ร้ายแรง ซึ่งจะทราบผลปลายเดือนเมษายนนี้ หากพบว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ไม่ผิดจริง ก็จะได้กลับเข้าทำงานตามปกติ

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ว่าทำไมต้องสอบวินัยทั้งร้ายและไม่ร้ายแรงนั้น เพราะพส.ต้องการให้การตรวจสอบมีความรัดกุม และเป็นธรรมมากที่สุด เนื่องจากศูนย์ฯ จ.ขอนแก่น เป็นศูนย์แรกที่พบการทุจริต ที่สังคมจับตา พบผิดเรื่องไหนก็ทำการสอบเรื่องนั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย