ม.รังสิต 1 ต.ค.- วีระ จี้นายกฯ ตรวจสอบกรณีครอบครัวอดีตปลัดกลาโหม ชี้ ไม่ควรปกป้อง หากปล่อยไว้จะทำลายความน่าเชื่อถือการปราบปรามทุจริตของรัฐบาล
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เชื่อว่า กรณีบุตรชายคนโตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลางโหม เปิดบริษัทในค่ายทหาร และได้รับงานจากกองทัพภาคที่ 3 มีความไม่ชอบมาพากล พล.อ.ปรีชาไม่สามารถตอบคำถามของสังคมได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้บ้านพักในค่ายทหารจดทะเบียนเป็นบริษัทในปี 2555 ขณะที่ พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่มีส่วนรู้เห็น
“ดังนั้น พล.อ.ปรีชาจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย แม้ว่าเรื่องดังกล่าวนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบเอาผิดแล้ว แต่ผมจะไปช่วยดูคำร้องและตรวจสอบควบคู่อีกทางหนึ่ง” นายวีระ กล่าว
นายวีระ ยังเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพี่ชาย พล.อ.ปรีชา ไม่ควรเพิกเฉย และต้องตรวจสอบเรื่องของบุคคลใกล้ชิด ไม่ควรออกมาปกป้อง เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์พูดเสมอว่า จะเข้ามาตรวจสอบแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และยังทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตแห่งชาติ
นายวีระ กล่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ดำเนินการใดๆ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรพูดจาข่มขู่ว่า จะตรวจสอบคนที่เข้าร้องเรียนกรณีของ พล.อ.ปรีชา เนื่องจากเป็นการคุกคามระบบตรวจสอบ
“ผมตั้งข้อสังเกตการทำงานของ ป.ป.ช. ว่ามีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ โดยเฉพาะการไม่ดำเนินการตรวจสอบเรื่องการร้องการทุจริต ที่เกี่ยวข้องกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งกรณีอุทยานราชภักดิ์ และการแต่งตั้งบุตรชายคนเล็กของ พล.อ.ปรีชา เข้ารับราชการทหาร แต่กลับตีตกคำร้อง โดยไม่มีการไต่สวนข้อเท็จจริง และไม่มีการทำหนังสือชี้แจงเหตุผลมายังผู้ยื่นเรื่องด้วย” นายวีระ กล่าว