สหประชาชาติ 31 มี.ค. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประกาศขึ้นบัญชีดำเรือ 27 ลำ บริษัท 21 แห่งและนักธุรกิจ 1 ราย จากการให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือหลบเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร
ภายใต้มาตรการล่าสุดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรือน้ำมันและเรือสินค้าของเกาหลีเหนือ 13 ลำ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่าเรือใด ๆ ทั่วโลก ในขณะที่เรือของประเทศอื่น ๆ อีก 12 ลำ ที่ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเกาหลีเหนือในการลักลอบขนส่งสินค้าหรือน้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะถูกห้ามเข้าเทียบท่าเรือเช่นเดียวกัน ส่วนเรือเกาหลีเหนืออีก 2 ลำ จะถูกอายัดทรัพย์สินทั่วโลก แต่ไม่ห้ามเข้าเทียบท่า นอกจากนั้น บริษัทเดินเรือและการค้า 21 แห่งก็จะถูกอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจำนวนนี้ 3 แห่งอยู่ในฮ่องกง ซึ่งรวมถึงบริษัทหัวซิน ขิปปิ้ง ซึ่งขนส่งถ่านหินจากเกาหลีเหนือไปยังเวียดนามเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในขณะที่นักธุรกิจที่ถูกระบุว่าชื่อ เซียง ยุง หยวน ก็ถูกห้ามเดินทางทั่วโลกและถูกอายัดทรัพย์จากการจัดการขนส่งถ่านหินของเกาหลีเหนือ
การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้เป็นไปตามคำขอของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรการลงโทษที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือครั้งใหญ่ที่สุดที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้ความเห็นชอบ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างการลักลอบขนส่งสินค้าไปให้เกาหลีเหนือ ที่ถือเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในการลงโทษเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธและพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ มาตรการกดดันเกาหลีเหนือล่าสุดนี้ได้รับความเห็นชอบในขณะเดียวกันกับที่สหรัฐดำเนินการเตรียมการเพื่อเจรจากับเกาหลีเหนือเรื่องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีกำหนดการที่จะประชุมสุดยอดร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในเดือนพฤษภาคมนี้ แม้จะมีการเปิดประตูทางการทูตแต่สหรัฐก็กล่าวอย่างชัดเจนว่า การกดดันเกาหลีเหนือจะยังคงดำเนินต่อไป.-สำนักข่าวไทย