กองทัพบก 3 ต.ค.-“พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท” ประชุมผู้บังคับหน่วยระดับกองพลเป็นครั้งแรก หลังรับมอบตำแหน่ง ผบ.ทบ. ระบุภาพรวมนโยบายไม่เปลี่ยนแปลง ขอให้ทุกคนช่วยประคับประคองสถานการณ์ประเทศให้เดินไปข้างหน้า ห่วงกลุ่มเห็นต่างนำอาวุธปี 53 มาใช้ เผยได้คืนแค่ส่วนน้อย ลั่นไม่มีทางปฏิวัติ
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก แถลงผลการประชุมผู้บังคับหน่วยระดับกองพลเป็นครั้งแรกหลังรับมอบตำแหน่ง ที่กองบัญชาการกองทัพบก ว่า วันนี้ (3 ต.ค.) เป็นการมอบนโยบายด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านกำลังพล เพื่อให้เป็นทหารอาชีพ มีคุณธรรม มีอุดมการณ์ ซึ่งภาพรวมนโยบายไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก ส่วนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้อยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนกำลงและลดกำลังในพื้นที่ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ เพราะเข้าสู่การแก้ปัญหาระยะที่ 3 โดยต้องพัฒนาขีดความสามารถกำลังประจำถิ่น และงานด้านการข่าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง ว่า กำลังขับเคลื่อนไปตามโรดแมป สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยหลังจากนี้จะใช้กำลังทหารลดลง แต่เน้นการบังคับใช้กฎหมาย โดยตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทั้งนี้ขอให้ทุกคนช่วยประคับประคองสถานการณ์ประเทศให้เดินไปข้างหน้า พร้อมยอมรับว่าเป็นห่วงการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากทางการข่าวแจ้งเตือนตลอดว่ามีกลุ่มที่เห็นต่างพยายามใช้ความรุนแรง ซึ่งอาวุธของกองทัพที่ยังไม่ได้คืนมีจำนวนมาก และไม่ทราบว่าอยู่ไหนบ้าง แต่จะพยายามติดตามอาวุธที่หายไปกลับมาให้ได้โดยเร็ว
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มีวุฒิภาวะ และคนไทยทุกคนมีความรักชาติ จึงขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนประเทศตามโรดแมป โดย 2 ปีที่ผ่านมา ประชาชนที่เห็นต่างมีจำนวนลดน้อยลงแล้ว แต่อาจยังมีบางส่วนที่เห็นต่างอยู่บ้าง ซึ่งรัฐบาลได้เน้นการวางรากฐานทุกด้าน เชื่อมั่นการทำงานของผู้บังคับหน่วยระดับต่าง ๆ ที่ดูแลพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งเข้าใจบทบาทของตนเอง และกองทัพบกทำงานเป็นทีม
เมื่อถามถึงการปฏิวัติรัฐประหาร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่อยู่ในความคิด และเชื่อมั่นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดการปฏิวัติ หรือปฏิวัติซ้อน และอยากให้เลิกใช้คำนี้ เพราะสถานการณ์ทุกอย่างประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งการทำรัฐประหารที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน ทั้งนี้ยืนยันว่าทหารพร้อมช่วยเหลือความเดือดร้อนทุกด้านตามการร้องขอ นอกจากนี้ยังย้ำว่า คำขวัญในการทำงานคือ “งานได้ผลคนเป็นสุข”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2553 มีอาวุธปืนชนิดต่าง ๆ ของกองทัพบกที่ยังสูญหาย 86 กระบอก ได้คืนมา 29 กระบอก.-สำนักข่าวไทย