ทำเนียบฯ 12 มี.ค.- ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 เดินหน้าจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนกว่า 3แสนไร่ จัดสรรงบให้ภาคการเกษตรทำประโยชน์ กว่า 1 แสนล้านบาท กำชับเจ้าหน้าที่ห้ามรับส่วยแก้ปัญหาค้ามนุษย์เด็ดขาด ยกระดับสู่สากลแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงเรื่องการปฎิรูปประเทศ และการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยรัฐบาลดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนแล้ว 184 พื้นที่ใน 63 จังหวัด เนื้อที่กว่า 3 แสนไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 4 แสนคน และจากนี้ไปจะส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพต่อไป
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในส่วนของภาคการเกษตรขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้จัดสรรงบประมาณปี 2561 วงเงิน 150,000 ล้านบาท เน้นการจัดสรรพื้นที่ทำกิน ในภาคการเกษตรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเน้นการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยจะดำเนินการ 3 ทาง คือต้นทางส่งเสริมการพัฒนาแหล่งผลิตและการผลิต กลางทางเพิ่มการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ส่วนปลายทางจะส่งเสริมสินค้าแบบใหม่ เช่น เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบ ซึ่งไม่พบเจ้าของเรือมีมากกว่า 415 ลำ และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจนดำเนินการออกหมายจับไปแล้ว 150 ลำ ในปีนี้รัฐบาลจะเน้นย้ำติดตามควบคุมในศูนย์เฝ้าระวังทั้ง 32 แห่ง นอกจากนี้จะเน้นการตรวจเข้มและพิสูจน์ทราบถึงที่มาของสัตว์น้ำ โดยจะประสานงานกับประเทศในภูมิภาคถึงการตรวจสอบที่มาของสัตว์น้ำที่นำเข้ามายังประเทศไทย
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ 3 มาตรการ คือ การเพิ่มอากาศยานไร้คนขับในการตรวจสอบ พร้อมปรับอัตรากำลังพลในศูนย์ปีโป้ ให้สอดคล้องกับการดำเนินงานพร้อมเร่งพัฒนาศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสให้เป็นรูปธรรมแก้ไขกฎหมายเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ให้สามารถดำเนินการภายในศูนย์ให้แล้วเสร็จในขั้นตอนเดียว นอกจากนี้พล.อ.ประวิตรได้กำชับในที่ประชุมให้เข้มงวดในการดำเนินการทุกขั้นตอนไม่ให้มีการรับส่วยหรือการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย