กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – คลังเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาล 4 เดือนแรกปีงบฯ 61 กว่า 738,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 28,000 ล้านบาท ยันฐานะคลังแข็งแกร่ง
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60 – ม.ค.61) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 738,345 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 28,381 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0
ทั้งนี้ มีสาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และกรมสรรพสามิต สูงกว่าประมาณการ 12,994 12,747 และ 1,251 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.5 17.9 และ 0.7 ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีรถยนต์ รายได้อื่นของกรมสรรพสามิต และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,212 1,955 และ 1,426 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.5 470.0 และ 1.2 ตามลำดับ
“การจัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ยังคงสูงกว่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ กระทรวงการคลังคาดว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลจะเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น” นางสาวกุลยา กล่าว
ส่วนฐานะการคลัง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 737,260 ล้านบาท ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,212,023 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 191,351 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลังสิ้นเดือนมกราคม 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 188,735 ล้านบาท ทั้งนี้ ฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ยังคงอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง โดยรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้.-สำนักข่าวไทย