นิวเดลี 21 ก.พ.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยระหว่างอยู่ที่อินเดียว่า ทรัมป์ออร์แกไนเซชัน บริษัทของครอบครัวต้องบอกปัดโอกาสทางธุรกิจมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากบิดาเป็นประธานาธิบดี
ทรัมป์ จูเนียร์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดียฉบับวันนี้ว่า พวกเขางดทำธุรกิจใหม่ในระหว่างที่บิดาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และได้บอกปัดข้อตกลงมูลค่ามหาศาลทั่วโลก ทรัมป์ จูเนียร์ วัย 40 ปี เดินทางมาอินเดียอย่างไม่เป็นทางการเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการที่พักหรูในเมืองคุร์เคาน์ เมืองใหญ่ที่สุดในรัฐหรยาณา เป็นที่ตั้งสำนักงานของบริษัทใหญ่หลายแห่ง และเป็นเมืองบริวารของกรุงนิวเดลีด้วย โครงการนี้ทำการตลาดในชื่อของทรัมป์ผู้พ่อ เป็นกลุ่มอาคารชุดสูง 47 ชั้น สำหรับ 250 ครอบครัว ราคาตั้งแต่ 55-110 ล้านรูปี (ราว 27-54 ล้านบาท) คาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของอินเดียเผยว่า บันทึกยอดจำหน่ายได้แล้วเกือบ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2,520 ล้านบาท)
ประธานาธิบดีทรัมป์มอบให้บุตรชายดูแลทรัมป์ออร์แกไนเซชันในช่วงที่บริหารประเทศ แต่ไม่ยอมถอนทรัพย์สินของตนเองออกมา จุดกระแสวิตกเรื่องอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน ขณะเดียวกันมีเสียงวิจารณ์ว่า การที่ครอบครัวประธานาธิบดียังไม่ถอนตัว อาจเปิดช่องให้บริษัทได้ประโยชน์จากรัฐบาลต่างชาติที่ตกลงทำธุรกิจด้วยเพื่อเอาใจผู้นำสหรัฐ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ครอบครัวทรัมป์ได้เงินสัมปทานจากธุรกิจในอินเดีย 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 94 ล้านบาท) ในปี 2559 นอกจากนี้ยังให้หุ้นส่วนในอินเดียยืมชื่อทรัมป์ออร์แกไนเซชันไปใช้กับโครงการที่กำลังก่อสร้างในเมืองโกลกาตา มุมไบ และปูเน่ โดยได้ส่วนแบ่งกำไรเป็นการตอบแทน และไม่ได้ลงทุนโดยตรง.- สำนักข่าวไทย