ศุภชัย พร้อมแจงแก้ร่างกฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส.และส.ว.

สำนักงาน กกต.14 ก.พ.- ประธาน กกต.ไม่หนักใจทำหน้าที่ 1เสียง กกต.พร้อมแจงปรับแก้กฎหมาย ส.ส.- ส.ว.ยึดมติ กกต.เป็นหลัก 


นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  กล่าวถึงการเป็นตัวแทน กกต.ในคณะกรรมการร่วมสามฝ่าย พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ว่า โดยส่วนตัว ไม่มีความกังวลอะไร พร้อมเป็นตัวแทนของ กกต. เพื่อไปทำหน้าที่  ประเด็นที่จะนำไปแถลงและชี้แจงต่อที่ประชุมกรรมการร่วมสามฝ่าย เป็นการไปยืนยันมติของ กกต. ที่มีความเห็นแย้ง 6 ประเด็น  ประกอบด้วย  ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง  ส.ส. 5  ประเด็น และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.1 ประเด็น คือมาตรา 64  ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้อำนาจศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับการสรรหาได้เพียงอย่างเดียว  ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 

“จากที่เห็นรายชื่อกรรมการในส่วนของ สนช.และ กรธ. แล้ว ไม่รู้สึกกังวลใด ๆ  เพราะมีหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้  พร้อมชี้แจงเหตุผล ซึ่งเป็นไปตามมติของ กกต.”  นายศุภชัย  กล่าว 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.มีมติที่จะทำความเห็นแย้ง  ในส่วนของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 5 ประเด็น  1 เรื่องที่ให้ผู้สมัครพรรคการเมืองมีหมายเลขแตกต่างกันไปตามเขตเลือกตั้ง  ซึ่ง กกต.เห็นว่าขัดกับมาตรา 224 (2)  ของรัฐธรรมนูญ  ที่กำหนดให้ กกต.มีบทบาทในการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม  การมีหมายเลขแตกต่างกันในแต่ละเขตของแต่ละพรรคจะทำให้กระบวนการจัดเตรียมพิมพ์บัตรต้องกระจายออกไปในพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น จะเสี่ยงต่อการเกิดบัตรปลอมมากขึ้น  แทนที่จะพิมพ์ในส่วนกลางที่สามารถควบคุมบัตรเลือกตั้งให้ปลอดภัย  ไม่สามารถปลอมแปลงบัตรได้ ทำให้ยากจะจัดการเลือกตั้งให้เกิดการสุจริต เที่ยงธรรมได้

2 ประเด็นมหรสพ  ที่กำหนดให้การหาเสียงของผู้สมัครสามารถจัดมหรสพได้  จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เพราะการคำนวณค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้จะทำให้เกิดความได้เปรียบ  เสียเปรียบระหว่างพรรคใหญ่และพรรคเล็ก ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 224 (2)  3 มาตรา 62 วรรค 2 กรณีที่กำหนดค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองเท่ากัน  ตามหลักเกณฑ์ที่กรรมการการเลือกตั้งกำหนด 

4 มาตรา 133 เรื่องขอบเขตอำนาจศาลให้ใบเหลืองหลังประกาศผลเลือกตั้งได้  เป็นการเขียนเกินขอบเขตของกฎหมาย  เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ใบแดงกับใบดำเท่านั้น  ขัดกับสาระของรัฐธรรมนูญเท่ากับขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ  และ  5 มาตรา 138 ภายหลังประกาศเลือกตั้งให้มีการเลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งด้วย หรือที่เรียกว่าใบดำ ซึ่งในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ได้ทั้งใบดำและใบแดง  แต่ในกฎหมายเขียนให้ใบดำเพียงอย่างเดียว จึงถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ


ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.  กกต. เห็นแย้งในมาตรา 64  เรื่องที่ให้อำนาจศาลให้ใบดำเพียงอย่างเดียว  ซึ่งเป็นการเขียนให้สอดรับกับร่าง พ.ร.ป. ส.ส. ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญศาลสามารถให้ได้ทั้งใบดำและใบแดง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย