ทำเนียบฯ 13 ก.พ. – พลังงาน พาณิชย์จับมือลดสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ คาดปาล์มทลายราคา 4.2 บาทต่อกิโลกรัมตามเป้าหมาย
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงผลความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงาน ว่า หลังจากสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สูงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 532,000 ตัน นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้ทั้ง 2 กระทรวงช่วยกันลดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ 2 แสนตัน ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยกระทรวงพาณิชย์ผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ 1.57 แสนตัน ส่วนกระทรวงพลังงานเพิ่มการผลิต Biodiesel จากความต้องการใช้ปกติ 4 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มเป็น 6 ล้านลิตรต่อวัน และเก็บไบโอดีเซล ส่วนผลิตเกินความต้องการไว้ในสต๊อกชั่วคราว ทำให้สต็อกเพิ่มสูงขึ้นจาก 92 ล้านลิตร เป็น 109 ล้านลิตร
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากความร่วมมือของทั้ง 2 กระทรวง ทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มดิบลดลงจาก 532,000 ตัน ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 60 ลดเหลือ 314,000 ตัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 61 และผลักดันราคาน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มสูงขึ้นจาก 19 บาทต่อกิโลกรัม ในเดือนธันวาคม 2560 เพิ่มเป็น 21 บาทต่อกิโลกรัม ขณะเดียวกันราคาผลปาล์มน้ำมันจากส่วนปรับเพิ่มจาก 3.37 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มเป็นราคา 4.10 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ราคาปาล์ทลายจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4.20 บาทต่อกิโลกรัมได้ตามเป้าหมาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังเดินหน้าทดลองส่งเสริมการผลิตไอโอดีเซล ด้วยการเพิ่มสัดส่วนน้ำมันปาล์มจากร้อยละ 7 เพิ่มเป็นร้อยละ 10 ช่วงแรกทดลองในหัวรถจักรรถไฟ สถานีบ้านแหลม อ.อัมพวา เพื่อประเมินประสิทธิภาพต่อเครื่องยนต์ได้ผลอย่างไร จากนั้นค่อยขยายไปยังเครื่องยนต์ประเภทอื่น เพื่อช่วยดูดซับการใช้น้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย