กกร.เสนอรัฐบาลทบทวนค่าจ้างขั้นต่ำใหม่

กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – กกร.เผยไม่ขัดการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของคณะกรรมการค่าจ้างแรงงานกลาง แต่เห็นว่าสูงเกินไปไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในแต่ละพื้นที่ หวั่นกระทบภาคเกษตร บริการ และเอสเอ็มอี วอนรัฐทบทวนมติใหม่และให้เป็นไปตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัด


นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวถึงผลกระทบต่อการปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 ว่า ได้สอบถามความคิดเห็นไปยังสมาชิกทั่วประเทศ พบว่า กว่าร้อยละ 92 ของจังหวัดทั้งหมด เห็นว่าปรับเกินกว่าที่คณะอนุกรรมการจังหวัดเสนอ ซึ่งจะส่งผลต่อ 35 จังหวัด ที่คณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไม่ได้เสนอปรับขึ้นค่าจ้าง อาทิ จังหวัดระยอง มีการปรับเพิ่มค่าจ้างเป็น 330 บาทต่อวัน จากเดิม 308 บาทต่อวัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7 ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจในพื้นที่

ทั้งนี้ กกร.จะเสนอรัฐบาลให้ทบทวนมติอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ได้มีมติออกมาตามคณะกรรมการค่าจ้างแรงงานกลาง ซึ่งการปรับขึ้นอยากให้เป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดและสอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย มาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 นอกจากนี้ เห็นว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าจ้างแรงงานและการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเกษตร บริการ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ซึ่งจะเป็นการเร่งให้มีอัตราการว่างงานสูงขึ้น จากการที่ผู้ประกอบการนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีมาทดแทนแรงงาน อีกทั้งการปรับค่าจ้างที่เกินพื้นฐานสภาพความเป็นจริงทางเศรษฐกิจและสังคมจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประเทศในภาพรวม รวมทั้งค่าครองชีพจะสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนได้


อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (23 ม.ค.) กกร.จะนำเสนอมติดังกล่าวต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการ พร้อมจะฟังผลจากรัฐบาลว่าจะมีการทบทวนมติหรือไม่ หากไม่มีการทบทวน กกร.จะมีการสำรวจผลกระทบจากอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่ปรับขึ้นให้มีความชัดเจนอีกครั้ง 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลเร่งโครงการโครงสร้างพื้นฐานหรือโครงการกระตุ้นแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เศรษฐกิจในพื้นที่เหล่านั้นมีอัตราการเติบโตที่ดี. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว