ชมป่าเมเปิลผลัดใบ ใจกลางภูหินร่องกล้า

พิษณุโลก 15 ม.ค.-นักท่องเที่ยวเดินเท้าระยะทาง 1.5 กิโลเมตร เพื่อชมต้นเมเปิลมากที่สุด ณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า



ที่บริเวณทางขึ้นภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หมู่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ออกเดินเท้าเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตร เพื่อชมต้นเมเปิลที่มากที่สุดในภูหินร่องกล้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีไม่ต่ำกว่า 100 ต้น ขึ้นแทรกตามต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิ 15 องศาฯ


นักท่องเที่ยวจะได้พบกับใบเมเปิล หรือดอกเสือไฟเดือนห้า ที่ผลัดใบเปลี่ยนสีเป็นสีแดง สีเหลือง สีเหลืองแดง ขณะนี้ได้หล่นจากต้น จนเกือบเหลือชุดสุดท้ายให้นักท่องเที่ยวได้ชมจนเต็มพื้นดินอย่างสวยงาม

นอกจากนี้ ยังมีผาทัพพลพระขันธ์เพชร ซึ่งเป็นเหมือนท่อนหินใหญ่ทอดยาวเป็นสะพานยาวกว่า 5 เมตร และมีรอยพระพุทธบาทให้สักการะ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

DSI รับคดีอาคาร สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ

กรุงเทพฯ 2 เม.ย. – ดีเอสไอรับคดีอาคาร สตง.ที่กำลังก่อสร้าง ถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหว เป็นคดีพิเศษ จ่อเรียกสอบนอมินีถือหุ้น

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์กรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ความสูง 30 ชั้น มูลค่างานก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท ที่กำลังก่อสร้าง ถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหว เป็นคดีพิเศษ

พันตำรวจตรี ยุทธนา เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อวานนี้ที่มีการประชุมมอบหมายภารกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงกรณีอาคาร สตง.ที่กำลังก่อสร้างถล่ม ขณะนี้ได้ข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะรับคดีพิเศษ ในประเด็นเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เนื่องจากพบข้อเท็จจริงว่ากรรมการของนิติบุคคลของบริษัท china railway number 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีการจดทะเบียนเป็นกิจการร่วมค้าฯ กับนิติบุคคลของประเทศไทย ในนามกิจการร่วมค้า itd-crec และเข้าเป็นคู่สัญญาในการก่อสร้างนั้น มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้น ร้อยละ 51 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบุคคลสัญชาติไทยดังกล่าวจำนวน 3 คน มีการเข้าไปเป็นกรรมการและถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ ร้อยละ 51 ร่วมกับนิติบุคคลต่างชาติอีกเป็นจำนวนมาก ไม่สอดคล้องกับสถานะทางเศรษฐกิจของแต่ละคน

จึงมีเหตุที่จำเป็นต้องทำการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นกรณีถือหุ้นหรือทุนแทนนิติบุคคลต่างชาติ ซึ่งจะทำให้นิติบุคคลดังกล่าวมีฐานะเป็นคนต่างด้าวตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งมีบทบัญญัติห้ามดำเนินธุรกิจการก่อสร้าง รวมทั้งขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ว่าเข้าข่ายความผิดทำให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม และมีการนำวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มาใช้ในการดำเนินการหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการประชุมกำหนดแนวทางและประเด็นการสอบสวนโดยด่วนต่อไป

ค้นบริษัทที่ก่อสร้างอาคาร สตง.ที่ถล่ม
ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังเข้าค้นบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น จำกัด ที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่าตั้งบริษัทอยู่ที่พุทธบูชา 44 แยก 11 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร แต่พบแค่ป้ายชื่อ ไม่พบว่าบริษัทดำเนินการ จึงขยายผลจนพบว่าบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น จำกัด มาเช่าอาคารพาณิชย์ ย่านจอมทอง กรุงเทพมหานคร เข้าค้นอีกไม่พบบริษัทดังกล่าว

สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าบริษัทดังกล่าวย้ายสำนักงานมาอยู่ที่ซอยอยู่เจริญ แขวงดินแดง เขตดินแดง จึงเข้าค้น ปรากฏว่าพบว่ามีพนักงานบริษัทอยู่ 10 คน เป็นหญิงไทย 8 คน และ Ms.Xin Yu อายุ 32 ปี สัญชาติจีน และนายอ้ายอยู่ แซ่ปี ตรวจสอบพบว่าบ้านหลังนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น เช่าเดือนละ 85,000 บาท โดยทำสัญญาเช่าปีต่อปี เช่ามาแล้ว 3 ปี ใช้ชื่อผู้เช่าเป็นคนไทย

ทั้งนี้ ตำรวจได้ค้นหาพยานหลักฐานอย่างอื่น และย้อนกล้องวงจรปิดไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 68 พบว่าพนักงานบริษัทดังกล่าวขนเอกสารและสิ่งของออกไปตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงหลังเกิดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ถล่ม เพียงแค่ 2 วัน

นายอาคม สุทธิบุญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตดินแดง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอาคารที่จัดตั้งบริษัท ไชน่า เรลเวย์ ภายในซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 4-3 เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูลว่า ลงพื้นที่มาตรวจสอบสถานที่จริง เพราะสำนักงานเขตมีการตรวจสอบเรื่องภาษีที่ดิน และภาษีป้ายอากรบริษัท ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการชำระภาษีมาจริงตลอด 3 ปี แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการจ่ายปีละเท่าไร และใครเป็นผู้จ่าย เป็นเจ้าของตึก หรือเป็นผู้เช่าในสัญญาเป็นผู้จ่าย

หากมีการตรวจสอบแล้วว่าถ้าจ่ายภาษีอากรที่ดินและป้ายบริษัทไม่ครบ ก็มีอำนาจที่จะดำเนินการจับปรับตามข้อกฎหมาย เนื่องจากขนาดพื้นที่ที่ดิน ตารางวาหลายแสนบาท.-สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”