ตลท. 3 ม.ค. – หุ้นไทยเปิดปีจอ 2561 ทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 43 ปี ที่ 1,778.53 จุด ด้านเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องปิดตลาด 32.33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าสุดในรอบ 34 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) เปิดซื้อขายวันแรกของปี 2561 ทำสถิติใหม่ปิดวันที่ 3 มกราคม 2561 ที่ 1,778.53 จุด เป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2518 หรือสูงสุดในรอบ 43 ปี โดยปรับขึ้น 24.82 จุด หรือร้อยละ 1.42 จากสิ้นปี 2560 ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) ปรับขึ้นสูงสุดเป็น 18.17 ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 88,076.86 ล้านบาท (SET และ mai)
ทั้งนี้ ปี 2560 SET Index เพิ่มขึ้น 210.77 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 13.66 จากปัจจัยความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนต่อเศรษฐกิจไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน และปี 2560 มีการระดมทุนจาก IPO 42 หลักทรัพย์ รวม 426,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าสูงสุดเช่นกัน รวมถึงการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศที่เติบโตขึ้น ทั้งนี้ SET Index เคยปิดระดับสูงสุดที่ 1,753.73 จุด เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2537 และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมขณะนั้นอยู่ที่ 3.3 ล้านล้านบาท
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การปรับขึ้นของ SET Index แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นการลงทุนอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอแนะนำให้ผู้ลงทุนพิจารณาลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการที่ดีและมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต พร้อมศึกษาข้อมูลของบริษัทและติดตามข่าวทั้งในและต่างประเทศที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,730-1,770 จุด โดยคาดว่าจะยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากมีการหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมองว่าหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยน์จากปัจจัยภายนอกจะยังคงโดดเด่น อาทิ หุ้นในกลุ่มส่งออก หุ้นกลุ่มยานยนต์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคการบริโภคให้ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น
“แม้ว่าจะมีแรงขายจากเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดอายุที่มีการซื้อในช่วงที่ดัชนีอยู่บริเวณ 1,500-1,600 จุด เมื่อเทียบกับดัชนีในปัจจุบันที่อยู่บริเวณ 1,750 จุด ซึ่งปรับตัวขึ้นมากกว่า ร้อยละ 9-17 ซึ่งมีโอกาสขายทำกำไร แต่มองว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก จากมุมมองการลงทุนปีนี้ที่บริษัทจดทะเบียนยังมีผลประกอบการแข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มผู้บริโภคในประเทศก่อนการประกาศผลประกอบการของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี” นายมณฑล กล่าว
สำหรับปัจจัยสัปดาห์นี้นักลงทุนต้องติดตามรายงานการประชุม FOMC สำหรับการประชุมเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งจะประกาศวันที่ 3 มกราคม 2561 และจะทราบรายละเอียดวันที่ 4 มกราคม 2561(ตามเวลาประเทศ) ซึ่งคาดว่ารายงานตัวเลขจะกล่าวถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯ ปี 2561 รวมถึงต้องติดตามความไม่แน่นอนต่อความขัดแย้งของประเทศเกาหลีเหนือ
ด้านประเภทของนักลงทุน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,105.45 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 228.53 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,694.79 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ 4,571.71 ล้านบาท
ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องปิดตลาดอยู่ที่ 32.33 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าสุดในรอบ 34 เดือน เนื่องจากมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ขณะเดียวกันจับตาดูบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่จะทราบรายละเอียดวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.).- สำนักข่าวไทย