นนทบุรี 24 พ.ย.-ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนุ่มอ้างเป็นทหารบุกทวงหนี้สาวใหญ่ ย่านปากเกร็ด
นางณัฐนิชา อายุ 47 ปี ระบุมีคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านพักและทุบกระจกห้องทำงาน พร้อมรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้อง ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งบนถนนสามัคคี ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมอบให้ไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามนางณัฐนิชา ผู้เสียหาย ทราบว่าเรื่องมีอยู่ว่าตนไปซื้อโทรศัพท์มือถือราคา 21,000 บาท จากนั้นตนได้จ่ายเช็คให้ไปแต่เช็คมันเด้ง ทั้งคู่ได้เดินทางมาทวงเงินที่อพาร์ทเม้นท์ โดยคนทั้งสองได้ปีนรั้วเข้ามาด้านใน ในขณะที่ตนเองอยู่บนชั้น 2 เมื่อทั้งคู่เข้ามาด้านในแล้วตนจึงได้พยายามเคลียร์เรื่องหนี้สินแต่ทั้งคู่ไม่ยอม ตนจึงขอเวลาออกไปยืมเงินเพื่อนแล้วค่อยกลับมาเอาเงิน ต่อมาผู้หญิงได้เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมไม้เบสบอลเข้ามาเคาะและเขี่ยไปมา ตนจึงขอตัวออกไปหาเงินตอนเวลาประมาณ 13.00 น.ซึ่งตนพยายามหาเงินมาให้และตนได้เดินทางไป สภ.ปากเกร็ด เพื่อลงบันทึกประจำวัน ว่า จะใช้หนีโดยแบ่งจ่าย จากนั้นเวลา 19.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ไม่ได้ทำอะไรให้ และเวลา 20.00 น.ทั้งสองคนได้เข้ามาเคลียร์เงินหนี้สินกันและแยกย้ายกันกลับ เมื่อตนกลับถึงที่พักพบว่าถูกทำลายข้าวของเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบ จากนั้นได้เข้ามาแจ้งความว่าเกิดความเสียหายและลูกค้าที่พักไม่ปลอดภัย
ต่อมาเวลา 16.00 น.นางณัฐนิชา เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท. วิวัฒน์ ภาวงษ์ ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด นำหลักฐานเข้าแจ้งความเพิ่ม โดยได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเข้ามอบให้กับร้อยเวรเพิ่มเติม พร้อมสอบปากคำอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น 4 ข้อหา คือ 1.ทวงถามหนี้โดยการข่มขู่ หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ของลูกหนี้ 2.ทำให้เสียทรัพย์ 3.ร่วมกันบุกรุกกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และ 4.พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วอยู่ระหว่างติดตามตัวมาพบพนักงานสอบสวน
ด้าน พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข้อมูลผู้ก่อเหตุ จนทราบว่าเป็นใคร และได้เร่งรัดคดีให้ติดตามตัวมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าไม่มาทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกตามขั้นตอนกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ 4 ข้อหา ส่วนรายละเอียดของผู้ก่อเหตุนั้นอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล.-สำนักข่าวไทย