กรุงเทพฯ14 พ.ย.-มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผยผลทดสอบคาเฟอีนในผลิตภัณฑ์กาแฟ 3 in1 อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด และไม่พบการปนเปื้อนเชื้อราที่ทำให้เกิดพิษ แต่พบ 4 ยี่ห้อ มีปริมาณน้ำตาลสูงเกินกำหนด
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการทดสอบคาเฟอีนในกาแฟสำเร็จรูปชนิดผงที่ถูกเติมน้ำตาลและครีมเรียบร้อยแล้ว หรือกาแฟ3in1 ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวางในปัจจุบันเนื่องจากสะดวกในการรับประทาน
จากการเก็บตัวอย่างจำนวน 26 ตัวอย่าง จากทุกภูมิภาคและยี่ห้อนำเข้า พบทุกตัวอย่างมีปริมาณคาเฟอีนต่อ 1 ซองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 197 พุทธศักราช 2543 เรื่องกาแฟ ได้กำหนดมาตรฐานปริมาณคาเฟอีนไว้ที่ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกาแฟปรุงสำเร็จชนิดแห้งที่ชงเป็นของเหลวแล้ว 100 มิลลิลิตรลิตร รวมทั้งไม่พบการปนเปื้อนเชื้อราที่ทำให้เกิดพิษและก่อมะเร็งหรือโอคราทอกซินเอ
อย่างไรก็ตาม พบ6 ตัวอย่าง จากจังหวัดเชียงรายและสงขลา ไม่มีฉลากภาษาไทยเพราะเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขัดกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับ 383 พ.ศ.2560 เรื่องการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ (ฉบับที่2) และที่น่าเป็นห่วงคือพบ4 ยี่ห้อ มีปริมาณน้ำตาลสูงเกินเกินกว่าปริมาณที่แนะนำให้บริโภคสำหรับอาหารว่างประเภทเครื่องดื่มในแต่ละวันที่ไม่ควรเกิน12กรัมต่อวัน ได้แก่
1.เอ็กซ์ ซองไวท์คอฟฟี่ ทาริก ทรีออินวัน (กาแฟรสนม) มีปริมาณน้ำตาล19กรัมต่อซอง
2.กาแฟสมุนไพรธรรมชาติ MASUZA CAFE Natural Herbs Coffee Kopi Herbal Traditional มีปริมาณน้ำตาล14กรัมต่อซอง
3. กาแฟปรุงสำเร็จ ตราเนคาเฟ มีปริมาณน้ำตาล 13กรัมต่อซอง
และ4. เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ริชมอโรมา มีปริมาณน้ำตาล13กรัมต่อซองเช่นกัน
ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้เผยผลทดสอบปริมาณน้ำตาลในกาแฟ 3in1 พบเฉลี่ยอยู่ที่ 10-13 กรัมต่อ 1ซองซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมต่อร่างกายในหนึ่งวันคือไม่เกิน 24 กรัม
โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจะทำหนังสือถึงผู้ผลิตสินค้าที่ยังไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนดต่อไป.-สำนักข่าวไทย