กรุงเทพฯ 31 ต.ค.- ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แถลงเตรียมจัด SET in the City 2017 16-19 พ.ย.นี้
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวภายหลังแถลงข่าวการจัดงาน SET in the City 2017 ว่า ภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นกลับมามีความคึกคัก หลังจากที่ช่วง 8 เดือนแรก(ม.ค.-ส.ค.)ที่ผ่านมาค่อนข้างนิ่ง โดยมีปัจจัยจากการที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้น อัตราการขยายตัวทางเศรฐษกิจ(จีดีพี)ปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 3.8 รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวดีขึ้น ประกอบกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ที่ถือว่า ดีมากๆ ดีกว่าอัตราการเติบโตจีพีดีประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศสนใจกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ที่ดัชนีราคาหุ้นหรือ SET INDEX อยู่ที่ระดับ 1,700 จุด ไม่ได้อยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเมื่อเทียบกับปัจจัยตลาดหุ้นไทยที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยหากเทียบกับปี 2537 ตลาดหุ้นไทยที่ SETINDEX ที่อยู่ระดับ 1,700 จุดเช่นกัน แต่วันนี้พื้นฐานของตลาดทุนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง โดยขนาดตลาดใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า การซื้อขายเพิ่มขึ้นประมาณ 7 เท่าตัว บริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทย จากการที่นักวิเคราะห์สำนักต่าง ๆ คาดการณ์ไว้นั้น ระบุว่า ปีหน้าตลาดหุ้นไทย จะยังเติบโตและน่าจะดีกว่าปีนี้ ส่วนจะดีอย่างไรให้พิจารณาจากบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์จะเหมาะสมกว่า
สำหรับการจัดงาน SET in the City 2017 ที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับพันธมิตร 100 องค์กรจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.นี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิดการลงทุน พลิกอนาคตคุณสู่ความสำเร็จ” จะมุ่งตอบสนองนักลงทุนยุคดิจิทัล และคาดว่า จะเป็นช่วงที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาซื้อกองทุนต่าง ๆ เพราะจากการสอบถามพบกว่าก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ซื้อ การจัดงานช่วงปลายปีนี้ จึงเหมาะสำหรับการเลือกซื้อกองทุนต่าง ๆ ดังนั้นจึงคาดว่า ในการจัดงาน SET in the City 2017 และทำให้เป็นช่วงที่ทำให้เกิดการคึกคักของการลงทุนในตลาดหุ้นพอสมควร
นางเกศรา กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังให้การจัดงานครั้งนี้ มีผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการทุกระดับ ซึ่งปีนี้ มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ คนไทยมากถึง 38 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของประชากรทั้งประเทศ สามารถเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ต และมีการใช้โซเชี่ยลมีเดียถึงวันละเกือบ 4 ชั่วโมง ส่งผลให้ข้อมูลต่าง ๆ แปลงลงมาสู่สมาร์ทโฟนและมีการออนไลน์ ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้น ทั้งการสั่งซื้อขายหุ้นและการเข้าถึงบริการทางการเงิน ผ่านแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ และจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้ มีจำนวนบัญชีซื้อขายหุ้น รวม 2,133,913 บัญชี ในจำนวนนี้ 1,863,220 บัญชี หรือประมาณ ร้อยละ 87 เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับในระยะหลังยังมีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมบริการรูปแบบใหม่ๆ หรือที่เรียกว่า Fintech เพื่อใช้ในการหาข้อมูลตัดสินใจลงทุนด้วย
ดังนั้นในการจัดงาน SET in the City ครั้งที่ 13 จึงมีการเปิดตัวนวัตกรรม โปรแกรม และแอพพลิเคชันใหม่เพื่อการลงทุนเพื่อตอบรับกระแสยุคดิจิทัลด้วยทั้งแอพพลิเคชันจากสถาบันการเงิน ตลอดจนเทคโนโลยีคัดกรองหุ้นและกองทุนรวมเพื่อผลผลตอบแทนเป้าหมาย ผ่านเครื่องมือยุคใหม่เช่น Robo Advisor การนำระบบสมองกลหรือ AI (Artificial Intelligent) มาประยุกต์ใช้ในการลงทุน สำหรับสินค้าอนุพันธ์ TFEX Gold-D การเทรดทอง 99.99% เป็นดอลลาร์ LIVE Platform เพื่อการระดมทุนของ Startup รวมทั้งการนำเสนอศักยภาพ ให้ข้อมูลแผนธุรกิจที่สร้างโอกาสเติบโตด้วย Innovation แก่ผู้ลงทุนโดยตรงจากผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนไทย ผู้เริ่มต้นลงทุนรับคำปรึกษาเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญ นักวางแผนการเงิน (CFP) มืออาชีพ พร้อมเครื่องมือและช่องทางการหาข้อมูลสำหรับมือใหม่ เช่น SET Social Media ห้องเรียนออนไลน์ สัมผัสโลกการลงทุนผ่านเกมจำลอง และการแข่งขัน Trading Simulation เสมือนจริง นอกจากนี้ ยังมีสัมมนาและเวิร์คช็อปที่เข้มข้นด้วยเนื้อหาเจาะลึกจากผู้เชี่ยวชาญกว่า 50 ช่วงตลอด 4 วัน -สำนักข่าวไทย