สายการบินไปสหรัฐเตรียมใช้ระเบียบเข้มงวดใหม่ตั้งแต่พฤหัสบดีนี้

วอชิงตัน 25 ต.ค.- สายการบินที่มีเที่ยวบินไปสหรัฐเตรียมดำเนินมาตรการความปลอดภัยใหม่ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ รวมถึงการตรวจตราผู้โดยสารเข้มงวดมากขึ้นตามข้อกำหนดของรัฐบาลสหรัฐเพื่อเลี่ยงการถูกห้ามผู้โดยสารนำแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบิน 


ลุฟต์ฮันซากรุ๊ปของเยอรมนีแจ้งว่า ผู้โดยสารอาจถูกสัมภาษณ์สั้น ๆ ที่จุดเช็คอินหรือประตูขึ้นเครื่อง แต่รอยเตอร์รายงานว่า ผู้โดยสารชั้นประหยัดของสวิสแอร์ไลน์ในเครือลุฟต์ฮันซาถูกสัมภาษณ์ที่จุดเช็คอินไม่ต่ำกว่า 90 นาที ด้านคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงแจ้งว่า จะระงับบริการเช็คอินในเมืองและบริการโหลดกระเป๋าสัมภาระด้วยตนเองสำหรับเที่ยวบินตรงไปสหรัฐ ขอให้ผู้โดยสารไปก่อนเวลาขึ้นเครื่องอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพราะจะมีการสัมภาษณ์เรื่องความปลอดภัย สมาคมสายการบินเพื่ออเมริการะบุว่า มาตรความปลอดภัยใหม่มีความซับซ้อนแต่ก็ขอบคุณทางการที่ให้เวลาปรับตัว ขณะที่สมาคมสายการบินเอเชียแปซิฟิกติงว่า ควรเป็นความร่วมมือระดับโลกมากกว่าทำตามข้อกำหนดของจุดหมายใดจุดหมายหนึ่งเท่านั้น

มาตรการใหม่ของสายการบินจะมีผลกับผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าสหรัฐวันละ 325,000 คน จากท่าอากาศยาน  280 แห่งใน 105 ประเทศด้วยสายการบิน 180 แห่ง รวม 2,000 เที่ยวบิน สหรัฐประกาศระเบียบใหม่เมื่อเดือนมิถุนายน ยกเลิกระเบียบเดือนมีนาคมที่ห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนขึ้นเครื่องบินที่มาจากท่าอากาศยาน 10 แห่งในตะวันออกกลางแอฟริกาเหนือเพราะมีภัยด้านความปลอดภัย ต่อมาได้ยกเลิกระเบียบใหม่ในเดือนกรกฎาคม แต่ก็พร้อมจะนำกลับมาใช้ใหม่เป็นกรณีไปหากสายการบินและท่าอากาศยานไม่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยให้เวลาดำเนินการ 120 วันจนถึงวันพฤหัสบดีนี้.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต