กรุงเทพฯ 22 ต.ค.-การซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 4 พระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เชิญพระบรมอัฐิสู่พระบรมมหาราชวัง ได้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งในวันนี้จะมีการซ้อมในริ้วขบวนที่ 5 และ 6 ด้วย
การซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วที่ 4 เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อประมาณ 11.00 น. โดยประชาชนที่เข้าร่วมชมต่างปลาบปลื้มใจ ที่ได้ร่วมริ้วขบวนและได้อยู่ในวินาทีสำคัญนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปพระเมรุมาศท้องสนามหลวง ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ริ้วขบวนที่ 4 และ 5 เป็นการส่วนพระองค์
โดยการซ้อมริ้วขบวนที่ 4 นั้นจะมีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ การซ้อมวันนี้เริ่มขึ้นประมาณ 10.40 น. เป็นการเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน และพระผอบพระบรมราชสรีรางคาร โดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย จากพระเมรุมาศเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ใช้เส้นทางจากถนนเส้นกลางท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน เข้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ระยะทาง 1,074 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เป็นการเดินแบบปกติตามจังหวะเสียงกลอง และมีดุริยางค์บรรเลงเพลง หมุนเวียน 4 เพลง คือเพลงมาร์ชธงชัย, เพลงมาร์ชราชวัลลภ, เพลงยามเย็นและเพลงใกล้รุ่ง ซึ่งการซ้อมริ้วที่ 4 เสร็จสิ้นไปเมื่อเวลาประมาณ 11.15 น.
โดยริ้วขบวนที่ 5 ที่มีการซ้อมต่อจากริ้วที่ 4 นั้นจะมีขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2560 เป็นการยาตราขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ขึ้นประดิษฐานยังพระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ใช้เส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทระยะทาง 63 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เป็นการเดินแบบปกติตามจังหวะเสียงกลอง
วันนี้เป็นการซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย เพื่อให้พร้อมสำหรับการอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร รวมทั้งการซ้อมเคลื่อนขบวนให้งดงาม เห็นความพร้อมเพรียง ความทุ่มเทของทุกคนในริ้วขบวน โดยในวันพระราชพิธี กำลังพลในการฉุดชักทุกริ้วขบวนจะสวมใส่เครื่องแต่งกายใหม่ ตามแบบโบราณราชประเพณี โดยเครื่องแต่งกายของพนักงานหามพระที่นั่งราเชนทรยาน และพระที่นั่งราเชนทรยานน้อยคงตามแบบโบราณ
โดยในวันนี้ประชาชนที่มาเข้าชม ยังได้เห็นความวิจิตรของพระที่นั่งราเชนทรยาน สร้างขึ้นในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 สร้างด้วยไม้สักทองแกะสลัก ลงรักปิดทองและประดับกระจกทั้งองค์ สร้างเป็นทรงบุษบกย่อมุมไม้สิบสอง หลังคาซ้อนห้าชั้น มีครุฑยุดนาคประดับที่ฐาน 14 องค์ มีคานสำหรับหาม 4 คาน ความสูงจากฐานถึงยอด 4 เมตร 15 เซนติเมตร กว้าง 103 เซนติเมตร ยาว 191 เซนติเมตร เป็นงานฝีมือที่บรรจงสร้างอย่างประณีต พระที่นั่งองค์นี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกชิ้นหนึ่งของยุครัตนโกสินทร์ โดยมีการอัญเชิญพระที่นั่งราเชนทรยานมาบูรณะในปี 2527 และมีการอัญเชิญมาครั้งล่าสุดปี 2555 ใช้เชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
และครั้งนี้ได้จัดสร้างพระที่นั่งราเชนทรยานน้อยขึ้นใหม่ ที่จัดสร้างขึ้นใหม่ในการเชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากพระเมรุมาศท้องสนามหลวงไปยังพระบรมมหาราชวัง การจัดสร้างยึดตามรูปแบบพระที่นั่งราเชนทรยานแต่มีขนาดเล็กลงมา โดยเป็นพระราชยานทรงบุษบก โครงสร้างไม้สักทองทั้งองค์ลงรักปิดทองประดับกระจก ความสูงรวมคานหาม 4 เมตร 14 เซนติเมตร มีคานหาม 4 คาน ใช้คนหาม 56 คน สร้างโดยสำนักช่างสิบหมู่ที่จัดสร้างอย่างสมพระเกียรติ เพื่อใช้ในพระราชพิธีครั้งนี้โดยเฉพาะ และท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวประชาชนก็ยังคงเฝ้าคอยที่จะชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เดินทางเข้าพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีประชาชนเข้าชมในพื้นที่นับหมื่นคน.-สำนักข่าวไทย