รัฐสภา24 มี.ค.-เกษตรกรสหกรณ์โคนม บุกสภาฯ ขอบคุณ “นายกฯ-ก.เกษตร-ร.อ.ธรรมนัส” ผ่านมติ ครม.ทำให้เกิดความเท่าเทียมในการจัดการนมโรงเรียน ช่วยผู้เลี้ยงโคลืมตาอ้าปากได้สักที
รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสส.พรรคกล้าธรรม รับหนังสือจากกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ที่มีการทบทวนและเห็นชอบเรื่องระบบการบริหารจัดการนมโรงเรียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอก่อนหน้านี้
โดยตัวแทนกลุ่มเกษตรกรกล่าวว่า วันนี้มาขอบคุณนายกรัฐมนตรี, ร.อ.ธรรมนัส ,รัฐมนตรีทุกคนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สส.ทุกคนที่ให้ความกรุณากับภาคการเกษตร ที่ได้แก้มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมต่อเกษตกร สหกรณ์ และ สถาบันการศึกษา พวกเราคือเกษตรกรตัวจริง เป็นคนเลี้ยงวัวตัวจริงและรอคอยวันนี้มานานที่จะลืมตาอ้าปากได้
ด้านนายอิทธิ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนรอคอยมานานซึ่งเรื่องนี้ เราเริ่มต้นผลักดันให้มีการแก้ไขมาตั้งแต่ในสมัย ร.อ.ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และเรื่องก็ได้เข้าคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาทำให้ได้แก้ไขข้อติดขัดให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรทั้งนี้ เราต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว และขอบคุณ สส.ทุกคนที่ช่วยกันผลักดันไม่ว่าจะทั้งในสภาหรือในพื้นที่ เพราะเราเห็นความสำคัญของผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มติ ครม.ครั้งที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรเลี้ยงโคนมเป็นหลัก แต่เมื่อระยะเวลาเปลี่ยนไปกลับกลายเป็นองค์การที่คนมีเงินมากกว่าเกษตรกร ตอนที่ตนเป็นรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกันว่า เราต้องแก้มติ ครม.มาตลอด เพื่อจะทำให้เกษตรกรโคนมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าเท้าความกลับไป เกษตรกรคือเป็นสมบัติของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงดำริให้เกษตรกรมีรายได้จากการเลี้ยงโค และมีการจำหน่ายให้กับโรงเรียนแบบพิเศษเพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้พยายามผลักดันมาโดยตลอดและเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญสถาบันการศึกษาเป็นหลักโดยในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (Milk Board) นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจะมีการปรับโควตาตามมติ ครม.ดังกล่าว
“พรรคกล้าธรรม เห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกรเป็นหลัก ความสำคัญของเกษตรกรต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง จีดีพีของประเทศไทยจะสูงขึ้นไม่ขึ้นอยู่กับเกษตรกรฐานราก ถ้าเกษตรกรยังเป็นชนชั้น 2 ประเทศเราจะไม่สามารถพัฒนาต่อได้เลย”รอ.ธรรมนัสกล่าว
ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่่อวันที่ 3 มี.ค 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อนักเรียนทั้งประเทศได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมขายนมคุณภาพได้และมีความยั่งยืนในอาชีพเพื่อสร้างศักยภาพ ความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนม รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการศึกษา ในการดำเนินกิจการผลิตนมในลำดับแรก โดยผู้ประกอบการจะได้รับการจัดสรรสิทธิและพื้นที่การจำหน่ายอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม.-319.-สำนักข่าวไทย