กทม. 23 มี.ค.-สวนดุสิตโพล เผยประชาชน 62.19% เห็นด้วยนโยบายซื้อหนี้ของ “ทักษิณ” โดยเห็นว่าจะเป็นการรวมหนี้ไว้ที่เดียว และ 57.73% เห็นว่าแนวคิดดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินของคนไทยได้
วันนี้ (23 มี.ค.68) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความเห็นเฉพาะประชาชนที่มีหนี้สินต่อกรณี “ซื้อหนี้… แก้ปัญหาให้ประชาชน” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,153 คน สำรวจระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคม 2568
ในประเด็นประชาชนมีหนี้ประเภทใดบ้าง พบว่า ร้อยละ 51.60 หนี้ในระบบ สถาบันการเงิน ธนาคาร บัตรเครดิต รองลงมาร้อยละ 29.75 หนี้นอกระบบ เงินกู้นอกระบบ เจ้าหนี้ส่วนตัว และร้อยละ 18.65 นี่ทั้งในระบบและนอกระบบ
ประชาชนมีวิธีจัดการหนี้อย่างไร ร้อยละ 25.09 ชำระเฉพาะขั้นต่ำทุกงวด รองลงมาร้อยละ 21.96 ผิดนัดชำระบางครั้ง ร้อยละ 21.35 ชำระหนี้เต็มจำนวนทุกงวด
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อแนวคิดของ “นายทักษิณ ชินวัตร” ที่จะซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคาร ให้ผ่อนชำระใหม่แบบลดภาระ และล้างเครดิตบูโรโดยไม่ใช้เงินของรัฐ พบว่าร้อยละ 62.19 เห็นด้วย ด้วยเหตุผลเพราะช่วยรวมหนี้ทั้งหมดมาไว้ทีเดียว ดอกเบี้ยถูกลง ช่วยให้ คนที่มีหนี้สบายสบายใจขึ้น ไม่เครียด มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เสียประวัติทางการเงิน และร้อยละ 37.81 ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลไม่แน่ใจเรื่องความโปร่งใส อาจมีผลประโยชน์แอบแฝง ทำให้คนขาดวินัยทางการเงินและกู้เพิ่ม อาจกลายเป็นหนี้เสีย ส่งผลกระทบต่อการเงินของประเทศในอนาคต
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าแนวคิดซื้อหนี้ ของ “ทักษิณ” จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินคนไทยให้หมดไปได้หรือไม่ พบว่าร้อยละ 57.73 ช่วยได้ เพราะรถภาระหนี้ ส่งหนี้ได้ตรงเวลา ลดการกู้เงินนอกระบบ ทำให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น มีเงินเหลือพอไปลงทุนสร้างรายได้เพิ่ม ขณะที่ร้อยละ 42.27 ระบุช่วยไม่ได้ เพราะคนขาดวินัย อาจกู้เพิ่มและไม่ใช้คืน หวังรอให้รัฐช่วย ทำได้ยาก ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นี่ไม่ได้หมดไปแค่เปลี่ยนเจ้าหนี้ ไม่ได้ช่วยคนที่เป็นหนี้นอกระบบ ยังไงก็มีหนี้
เมื่อถามว่าหากใช้วิธีซื้อนี่ออกจากระบบธนาคาร คิดว่ารัฐบาลควรใช้วิธีใดแก้ไขปัญหาหนี้สินของคนไทย พบว่าร้อยละ 67.45 ปรับโครงสร้างหนี้ เช่นขยายเวลาผ่อน ลดค่างวด รองมาร้อยละ 64.76 ลดค่าครองชีพ เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าครองชีพรายเดือน และร้อยละ 61.37 ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ต่ำลง.-319.-สำนักข่าวไทย
