เชียงราย 15 มี.ค. – “เท้ง” เย้ย “ทักษิณ” บอกคงห้ามไม่ได้ถ้ารำคาญพรรคประชาชน บอกทำตัวเอง ไม่ได้เกิดจากใครเลย ถึงถูกบรรจุชื่อซักฟอก ตอก “เพื่อไทย” ต่างหากตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องรอกลับไปคุยผู้มีอำนาจตัวจริง ส่วนประชุมร่วมหัวหน้าพรรคประชาชน คุยเองทุกครั้ง ลั่น “ทักษิณ” อาจจะยังไม่ทราบ อบจ.ลำพูน ตนมีส่วนสนับสนุน เผยถ้าเปลี่ยนสูตร 23+7 ก็รอมาคุย ปัดตอบเปลี่ยนชื่อในญัตติเป็นอะไร ให้ไปตามดู ประธานสภาฯ เคยให้ข่าว
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิจารณ์พรรคประชาชนว่าเสนอชื่อนายทักษิณลงไปในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่ออะไร นี่หรือพรรคคนรุ่นใหม่
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายทักษิณเองก็ให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่าตนเองมีส่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน คนที่เป็นบุคคลสาธารณะ เข้าถึงอำนาจของรัฐในการบริหารราชการแผ่นดิน ย่อมต้องถูกตรวจสอบ ถ่วงดุลได้
“การที่พวกเราบรรจุชื่อนายทักษิณเข้าไปในญัตติไม่ได้เกิดจากใครเลย เกิดจากการกระทำของตัวนายทักษิณเอง ที่ต้องถูกตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรีที่ปล่อยให้ผู้เป็นบิดาคอยชี้นำชักใยตัวเองในการบริหารราชการแผ่นดิน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่านายทักษิณใช้คำว่า “น่ารำคาญ” แสดงว่าน่าจะฟิวส์ขาดใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า “ท่านจะรู้สึกรำคาญหรือไม่ ตนคงห้ามไม่ได้ แต่ถ้าดูตามการให้สัมภาษณ์ ท่านเองก็บอกว่าถ้าพรรคคนรุ่นใหม่ เราทำงานแบบนี้ อาจจะเสียไปอีกพรรค ตนก็ไม่แน่ใจว่าเสียไปอีกพรรคหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรค ท่านเองก็ไม่ควรพูด ในฐานะที่ท่านเองเคยถูกยุบพรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมือง น่าจะเข้าใจหัวอกของคนที่โดนยุบพรรคด้วยกัน แต่ถ้าท่านหมายถึงเสียคะแนนนิยม ตนคิดว่าคงตัดสินแทนประชาชนไม่ได้”
ส่วนที่นายทักษิณระบุว่าฝ่ายค้านรีบไป ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ปี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าช้าเกินไปด้วยซ้ำในการถ่วงดุลตรวจสอบ กระบวนการอภิปรายที่ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้สังคมยังต้องรออยู่ว่าจะเดินหน้าได้หรือ ทั้งที่พวกเราบอกว่าเรามีความพร้อมเดินหน้าเต็มที่ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าฝั่งรัฐบาลเองไม่ได้ส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริงในการเจรจาวิป ซึ่งตนอยู่ในห้องประชุมวิปวันนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ก็ออกมาพูดชัดเจนว่าตัดสินใจแทนคนในพรรคไม่ได้ ตนก็ไม่เข้าใจว่าการตัดสินใจแทนคนในพรรคได้นั้นหมายถึงใคร เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ตนคิดว่าการเดินหน้าการทำงานอย่างเต็มที่ การส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริงมาเจรจาพูดคุย น่าจะเป็นทางออกที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแบบนี้สะท้อนว่ามีคนอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้ว่านายวิสุทธิ์หมายถึงใคร แต่สิ่งที่บอกได้คือห้องประชุมในวันนั้น พวกเราพร้อมที่จะยืดหยุ่นบางส่วน แต่กรอบในการยืดหยุ่นทางฝั่งรัฐบาลเองไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงเป็นที่มาที่ต้องส่งให้นายวิสุทธิ์กลับไปคุยก่อน
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากไปถึงผู้ตัดสินใจตัวจริงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยากฝากให้ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลัง อยากจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ ตนคิดว่าสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคือการที่ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง รัฐบาลก็ทำหน้าที่รัฐบาล ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
ส่วนที่นายทักษิณไล่ฝ่ายค้านให้ไปถามคนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตั้งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการเจรจาคำที่บรรจุในญัตติและกรอบระยะเวลา ตนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง แต่ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ เป็นเพราะตัวแทนฝั่งพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาล ไม่ได้ส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริง
เมื่อถามว่าเป็นการดิสเครดิตพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนสื่อสารมาโดยตลอดว่าอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล อยู่ในฐานะที่ปรึกษา แต่การประชุมวิปร่วม ตนเป็นคนเข้าประชุมด้วยตนเอง
“นายทักษิณอาจจะยังไม่ทราบว่าภารกิจใน อบจ.ลำพูน ตนเองก็มีส่วนสนับสนุนอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแพลตฟอร์มในการเก็บข้อมูล เร็วๆ นี้จะเห็นอะไรอีกหลายอย่างที่ออกมาจากทางหัวหน้าพรรคด้วยเช่นเดียวกัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่านายวิสุทธิ์ออกมาระบุว่าสูตรเวลาอภิปรายอาจจะยืดหยุ่นให้เป็น 23+7 แล้ว คือฝั่งฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง รัฐบาล 7 ชั่วโมง รับได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยู่ในกรอบที่พูดคุยกันได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมให้ชัดเจนคือไม่ว่าจะเป็นสูตรใดก็ตาม ถ้ายืนพื้นอยู่ที่ประมาณ 30 ชั่วโมง การอภิปราย 2 วันเป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้ายังไม่ปลดล็อกเรื่องนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เดินหน้าต่อได้ยาก
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องคำที่ใช้แทนนายทักษิณขอรอเจรจาเรื่องเวลาก่อนดีกว่า ส่วนให้ช้อยส์ชื่อได้หรือไม่ว่ามีอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ลองดูตามที่ท่านประธานสภาเคยให้ข่าว ก็ได้มีการเปิดเผยรายชื่ออยู่ เช่น บุคคลในครอบครัว อยู่ในกรอบประมาณนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหล่อตามที่นายทักษิณอยากได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นชื่อที่นายทักษิณเคยเรียกตัวเองก็พอเป็นไปได้อยู่ แต่การบรรจุคำในญัตติก็ต้องเป็นทางการ
เมื่อถามว่าโฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า ได้การบ้านจากพรรคประชาชนและพลังประชารัฐไปเตรียมตัวแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในฝ่ายค้านจะมีกระบวนการเตรียมเนื้อหาไปตามแต่ละพรรค แต่ในพรรคประชาชน ตนเชื่อมั่นว่าไม่มีข้อสอบรั่วแน่นอน อยากให้รัฐบาลเตรียมพร้อมตอบข้อซักถามของพวกเรา.-315-สำนักข่าวไทย