ผู้นำฝ่ายค้าน เตรียมยืนกราน 3 เหตุผล คงชื่อ ”ทักษิณ”

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 11 มี.ค.-ผู้นำฝ่ายค้าน เตรียมยืนกราน 3 เหตุผลยัน ปธ.สภาฯ คงชื่อ ”ทักษิณ” ในญัตติซักฟอก หวั่นเลี่ยงใช้คำอื่นจะถูกประท้วงระหว่างอภิปราย ปัดดื้อหัวชนฝา ยืนยันได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังคงยืนยันให้ฝ่ายค้านลบชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มิเช่นนั้นจะไม่บรรจุญัตติเข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ฝ่ายค้านจะสะท้อนเสียงไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรตามหลักการ และเหตุผลที่ฝ่ายค้านคัดค้านการแก้ไขญัตติ และเชื่อว่า ทั้ง 3 เหตุผล และตัวอย่างญัตติที่ฝ่ายค้านได้ใช้เป็นเหตุผล หลายครั้งก็มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกได้หากมีความจำเป็น จึงอยากให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ฟังเหตุผลอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎรในการตัดสินใจ


ส่วนการกล่าวถึงบุคคลภายนอกสามารถกล่าวได้ แต่สิ่งที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องการคือการลบชื่อนายทักษิณออกจากญัตตินั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้ย้ำว่า ในหลายญัตติในอดีตที่ตนเองได้แนบไปพร้อมเอกสารคัดค้านเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ก็มีการอ้างถึงบุคคลภายนอก

ส่วนกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุการอ้างถึงบุคคลภายนอกในญัตติขอตั้งกรรมาธิการศึกษา และญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีความแตกต่างกันนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุว่า ก็เป็นสิ่งที่แต่ละคนมีอำนาจในการตีความของตนเอง แต่อยากขอให้คิดว่า ระหว่างญัตติธรรมดาที่สามารถกล่าวถึงบุคคลภายนอกได้ แต่เหตุใดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เป็นการกล่าวหามากกว่า จะไม่สามารถระบุชื่อบุคคลภายนอกได้ ซึ่งตนเองมองว่า อำนาจในการตีความต่างกัน แต่ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการให้เหตุผล


ส่วนหากประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ยินยอม ฝ่ายค้านจะยอมปรับแก้จากนายทักษิณ เป็นคำว่า บิดา หรือครอบครัวของนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ มองว่า ส่วนตัวตนเองมองว่า การใช้คำในการระบุในญัตติ อาจไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สิ่งสาระสำคัญคือกระบวนการอภิปรายในสภา เพราะหากมีการระบุชื่อนายทักษิณ ลงในญัตติอย่างตรงไปตรงมา ก็ทำให้ในการอภิปรายสามารถระบุชื่อนายทักษิณอย่างตรงไปตรงมาได้มากขึ้น และการประท้วงก็อาจทำได้ยากขึ้น แต่หากเลี่ยงเป็นคำอื่น ก็เกรงว่า จะมีความพยายามลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของฝ่ายค้าน ตนจึงอยากขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร วางตัวเป็นกลางในฝ่ายนิติบัญญัติ และไม่ใช้อำนาจปกป้องนายทักษิณ

ส่วนจำเป็นจะต้องแก้ เพื่อให้การอภิปรายเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ย้ำว่า ฝ่ายค้าน ไม่ได้ดื้อดึง ไม่ได้พยายามสู้หัวชนฝา แต่พยายามยืนยันในหลักการ และฝ่ายค้าน ได้ส่งหลักฐานต่าง ๆ ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) จะมีกาประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็มั่นใจว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะยังมีเวลาในตัดสินใจ และไม่ว่า จะตัดสินใจตามหลักการของฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ก็ยังมีเวลาภายในสัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่า ภายในวันศุกร์นี้ จะมีความชัดเจน

ผู้นำฝ่ายค้านฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ยังยืนยันว่า พรรคฯ มีความพร้อมเต็มที่ในการอภิปราย และไม่ได้ลังเล แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดขณะนี้ จะต้องหาข้อสรุปในญัตติจากประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน


ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังตั้งข้อสังเกตกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาระบุฝ่ายค้านไม่ควรระบุชื่อนายทักษิณในญัตติ และไม่ยอมถอย ไม่จริงจังในการเดินหน้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยันว่า ฝ่ายค้านพร้อมเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ต้องการยืนยันหลักการของฝ่ายค้านว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจควรเปิดกว้าง เพื่อให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายได้เต็มที่

ผู้นำฝ่ายค้านฯ เพื่อมาติดตามระบบกระบวนการยุติธรรม การดูแลสวัสดิการของผู้ต้องขัง และกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ และพระราชบัญญัติการอุ้มหาย เพื่อดูแลสิทธิผู้ต้องขัง ทั้งการติดต่อกับบุคคลภายนอก เพื่อให้เป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงระบบการพบญาติ ที่ปัจจุบันมาตรการยังไม่ตรงกัน โดยยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการมาขอข้อมูลชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเตรียมนำไปประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต