กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งดำเนินการกับ NWR กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ให้เร่งแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนภายใน 3 ปี หากยังไม่สามารถแก้ไขได้อาจถูกเพิกถอน หลักทรัพย์
ตามที่บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) (“NWR”) ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2567 มายัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์เป็นจำนวน 2,350 ล้านบาท ส่งผลให้หลักทรัพย์ NWR มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และประกาศ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยแนวทางดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนหุ้นสามัญจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้
- ประกาศให้หลักทรัพย์NWR มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-compliance) และยังคงเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
- ให้ NWR เปิดเผยแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากการที่ส่วนของผู้ถือหุ้น มีค่าน้อยกว่าศูนย์ พร้อมทั้งกำหนดเวลาของการดำเนินการดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้ทราบภายใน วันที่ 10 เมษายน 2568
- เมื่อครบกำหนดเวลาตามข้อ 2 และบริษัทได้แจ้งแนวทางดำเนินการอย่างครบถ้วนชัดเจนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทได้เป็นเวลา 1 เดือน และเมื่อครบเวลาดังกล่าวแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไปจนกว่าบริษัทจะดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปและดำเนินการให้ บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ หากบริษัทไม่แจ้งหรือยืนยันทางเลือกภายในกำหนดเวลาตามข้อ 2 ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจไม่อนุญาตให้ ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท
- ให้ NWR เร่งแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากการที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ให้หมดไปภายใน 3 ปี นับแต่วันที่10 มีนาคม 2568 หากครบกำหนดเวลาแล้ว NWR ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่าย อาจถูกเพิกถอนดังกล่าวให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ NWR ต่อไป
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนโปรดศึกษารายละเอียดงบการเงินฉบับเต็มของ NWR พร้อมทั้ง ติดตามการนำาเสนอแนวทางการดำเนินการของบริษัทดังกล่าวต่อไป -511 สำนักข่าวไทย