มติรัฐสภาเอกฉันท์ เห็นชอบ ‘ร่าง พ.ร.ป.ป.ป.ช.’

รัฐสภา​ 5 มี.ค.- ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเอกฉันท์ 507 เสียง เห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ…


ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ… ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการพิจารณาของรัฐสภา ได้ทักท้วงต่อการแก้ไขของกมธ. ในมาตรา 3 ซึ่งแก้ไข มาตรา 132 ว่าด้วยข้อกำหนดคุ้มครองผู้ที่ให้ถ้อยคำ แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส ต่อ ป.ป.ช. โดยได้ตัดข้อความที่เป็นเงื่อนไขการให้ถ้อยคำ ข้อมูล เบาะแสที่ทำโดยสุจริต ออกไป ทำให้สมาชิกรัฐสภาไม่เห็นด้วยเพราะกังวลว่าจะเปิดช่องให้นักร้องเรียนที่มีเจตนาไม่สุจริตยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อกลั่นแกล้งบุคคล รวมถึงฝ่ายการเมือง และไม่ต้องรับผิดในสิ่งที่มีเจตนาไม่สุจริต


ทั้งนี้ นาวาโทกิตติพงษ์ ปิยะวรรณโณ กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า กรณีตัดข้อความดังกล่าวออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการบังคับใช้ ผู้ร่วมกระทำผิดส่งเอกสารต่อ ป.ป.ช. ไม่กันไว้เป็นพยาน การฟ้องปิดปาก หากกระทำโดยสุจริตผู้ถูกดำเนินคดีพิสูจน์เจตนานำส่งเอกสาร หากไม่สุจริต ข้อกังวลใช้ช่องว่างทางกฎหมายกลั่นแกล้งไม่สุจริต หลักฐานและข้อมูลที่ส่ง ป.ป.ช.เป็นความจริงต้องได้รับความคุ้มครองไม่ว่าเจตนาเป็นอย่างไร หากข้อมูลเป็นเท็จ ป.ป.ช.พิจารณากลั่นกรองใช้เบาะแสอีกชั้นหากผู้นำส่งมีเจตนาสร้างพยายานหลักฐานเท็จจะถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเจตนาของผู้นำส่งหลักฐาน การคงไว้ซึ่งกระทำโดยสุจริตมีข้อเสียมากกว่าข้อดี คือ ลดการคุ้มครองของผู้ที่ส่งเอกสารอย่างมีนัยสำคัญ เจตนาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เอกสารต่างๆ ป.ป.ช.ต้องพิสูจน์ก่อนนำไปใช้ในชั้นศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา พบว่าที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่เห็นว่าไม่ควรตัดข้อความที่เป็นเงื่อนไขการให้ถ้อยคำ ข้อมูล เบาะแสที่ทำโดยสุจริต ออกไป

ทั้งนี้หลังจากที่ประชุมอภิปรายรายละเอียดแต่ละมาตราแล้วเสร็จ ได้ลงมติ โดยมติที่ประชุมเสียงเอกฉันท์ 507 เสียงเห็นชอบร่างพ.ร.ป. ป.ป.ช. ดังกล่าว พร้อมกับเห็นด้วยกับข้อสังเกตเพื่อส่งไปยัง ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ฮั้วเลือก สว.

DSI รับเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ

6 มี.ค. – คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงิน ด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้ โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน […]

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว