“พิชัย” ยันทุกข์ชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน

รัฐสภา 6 มี.ค.- สส.ประชาชน ถาม “พิชัย” ถ้าปรับเก้าอี้ จะยังอยู่หรือไม่ หลังจัดการปัญหาข้าวไม่ได้ ถามมาตรการที่ออกมาเป็นฝีมือตัวเองหรือไม่ สงสัย “นายกฯ Gen Y” ไม่สนใจชาวนาหรือ งงรัฐบาลหลายนโยบายย้อนแย้งกัน ด้าน “พิชัย” บอกเช็กข้อมูลให้ดี อยู่คนละพรรคกับ “นฤมล” ยันทุกข์ชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน แจงเงินเยียวยาน่าจะเข้า ครม. ไม่สัปดาห์หน้าก็สัปดาห์โน้น


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งกระทู้สดถาม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการแก้ไขปัญหาราคาข้าว

โดยนายณรงเดช กล่าวว่า ตนขอบคุณรัฐมนตรีที่มาตอบกระทู้ในวันนี้ แต่หากมาเช้ากว่านี้จะทราบว่าเพื่อนสมาชิกหารือกันถึงปัญหาราคาข้าวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หารือในกรรมาธิการ (กมธ.) รวมถึงตั้งญัตติด่วน เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวนา แต่ดูเหมือนว่าจะไปไม่ถึงกระทรวงพาณิชย์ ไปไม่ถึงรัฐมนตรี จึงต้องรบกวนให้มาตอบคำถามว่าจริงจังมากน้อยแค่ไหน เพราะทุกรัฐบาล


“เวลาตั้งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่รัฐบาลนี้กลับตั้งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายกฯเจนวาย ไม่สนใจชาวเกษตรเหรอครับ จากปัญหาการไร้ผู้นำ ทำให้เราเห็นการบริหารจัดการข้าวเป็นแบบทำใครทำมัน เป็นนโยบายเป็นนโยบายรายวัน” นายณรงเดช กล่าว

นายณรงเดช ตั้งคำถามว่า กำลังทำอะไรกันอยู่ มาตรการต่างๆที่ออกมาช่วยเหลือชาวนาได้ข้อสรุปแล้วหรือไม่ ในฐานะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นรองประธาน นบข. ตอบได้หรือไม่ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือพี่น้องชาวนาที่ทำนาปรังในฤดูการผลิต 2567 / 68 คืออะไร ความช่วยเหลือจะถึงพี่น้องชาวนาเมื่อไหร่ จะใช้เงินเท่าไหร่ จะช่วยเหลือใครบ้าง มั่นใจได้อย่างไรว่าเงินช่วยเหลือถึงชาวนา ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน ภายในรัฐบาลได้คุยกันหรือไม่ เพราะนโยบายดูย้อนแย้งกัน

จากนั้น นายพิชัย ตอบกระทู้ว่า ตนมีความห่วงใยชาวนาไม่ต่างจากท่าน มีความกังวลตลอดเวลา เราได้เริ่มพูดมาแล้วกว่า 10 หน ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าราคาข้าวนาปรังไม่ดี เนื่องจากอินเดียเริ่มส่งออกข้าว ก่อนจะชี้แจงว่าตนและนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่คนละพรรคกัน


“ผมกับกระทรวงเกษตรฯ ก็คุยกันบ้าง แต่อยู่คนละพรรคนะครับ เขาอยู่อีกพรรคหนึ่ง ผมไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน ถึงอยากจะฝากท่านช่วยเช็กว่าผมกับท่านนฤมลอยู่คนละพรรคกัน” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า ความทุกข์ของชาวนาคือความทุกข์ของแผ่นดิน เป็นสิ่งที่ตนตอกย้ำมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้เราไม่เคยให้เงินค่าข้าวนาปรังกับเกษตรกร แต่เราเห็นว่าราคาตกเยอะ เลยออกมาตรการมา มีชาวนามาเสนอแนวคิด เราก็รับฟังทุกทาง และส่งต่อ นบข.ใหญ่ และใช้เงินที่เหลือจากข้าวหน้าปีมาช่วย

นายณรงเดช จึงกล่าวถามต่อว่า ตอนนี้ไม่มีใครซื้อข้าวในตลาดโลก สถานการณ์ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เพราะล้นตลาด ในเมื่อกระทรวงพาณิชย์ทราบแล้วว่าจะมีสถานการณ์ข้าวล้นตลาด กระทรวงพาณิชย์ได้มีแผนการอย่างไรในการบริหารจัดการข้าวเปลือก 2.2 ล้านตัน ที่ยังไม่มีที่ไปในปีนี้ ถ้ารัฐมนตรีระบุว่าจะผลักดันการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) กับจีน อยากทราบว่าจะขายข้าวชนิดไหน ราคาเท่าไหร่ ข้อตกลงนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นฝีมือของท่านหรือไม่ การส่งออกข้าว 3 แสนตัน ไปแอฟริกาใต้ที่เป็นข่าวหนึ่งมูลค่าราว 5,250 ล้านบาท ตอนนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหน แล้วจะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่

ทำให้นายพิชัย ลุกตอบว่า สถานการณ์ตอนนี้ประเทศอินโดนีเซียที่จะเคยซื้อก็ไม่ซื้อ สถานการณ์ของเราในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ย. ตนได้ติดต่อขายข้าวล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เพราะรู้ว่าจะมีปัญหานี้ ได้มีการเรียกทูตจีนมาพบ นอกจากนี้ยังได้ติดต่อไปที่แอฟริกา ที่เป็นตลาดใหญ่มีผู้บริโภคข้าวไทยเยอะโดยตนจะต้องไปเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวปลายเดือนนี้ 3.7 แสนตัน ยืนยันว่าขายได้แน่ เพราะกรมการค้าระหว่างประเทศยืนยันกับตนแล้ว ส่วนตลาดอื่นๆเราพยายามหาเพิ่มเติม ตนได้มีการเรียกทูตพาณิชย์ทั้งหมดมานั่งฟังและหาช่องทางในการเร่งขายข้าว

ต่อมา นายณรงเดช ถามอีกว่า มาตรการที่มีอยู่ตอนนี้คือช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ใช่หรือไม่ ซึ่งผ่านมติ นบข. แต่ยังไม่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วยังไม่รู้ใช่หรือไม่ว่าจะเอาเข้า ครม.เมื่อไหร่

“ปีนี้ชาวนาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี เนื่องจากผลผลิตมากขึ้น แล้วรัฐบาลทำหน้าที่ของตัวเองแล้วหรือยัง ทำงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้หรือไม่ ตอนแถลงบอกว่าตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ วันนี้เกี่ยวข้าวแล้ว ตลาดอยู่ที่ไหนครับ ถ้าคะแนน 10 เต็ม 10 ท่านรัฐมนตรีจะให้คะแนนตัวเองในการแก้ปัญหาราคาข้าวเท่าไหร่ดีครับ ถ้ามีการปรับ ครม. ท่านจะยังอยู่หรือไม่ครับ” นายณรงเดช กล่าว

นายณรงเดช ถามว่า ชาวนาต้องจ่ายหนี้ ธ.ก.ส. ถึงแม้รัฐบาลจะมีโครงการพักชำระหนี้แต่มีเพดานที่ต่ำ ถ้าจ่ายไม่ทันจะทำอย่างไร ได้เตรียมมาตรการรองรับปัญหานี้หรือไม่

ทำให้นายพิชัย ตอบว่า ตอนนี้กำลังจะนำเข้า ครม. น่าจะภายในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์โน้น เพราะจะต้องเวียนขอความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆก่อน แต่ขอเรียนว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้ดำเนินการไปแล้ว เราต้องฟังความคิดเห็นของคนทุกฝ่ายและมาช่วยหาทางแก้ไข.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย