กลาโหม 5 มี.ค.- ‘โฆษกกลาโหม’ เผย ทหารไทย-กัมพูชา ลงพื้นที่ ‘ศาลาตรีมุข’ หาสาเหตุเพลิงไหม้ กำชับแนวชายแดนให้เรียบร้อย ป้องกันเหตุเกิดซ้ำ ‘กลาโหมไทย’ ย้ำแนวทาง ‘เจรจา’ แก้ปัญหา ไม่ใช้กำลัง ยืนยันไม่ใช่การหยามเกียรติ ขอให้โฟกัส ‘ไทย-กัมพูชา’ กำลังทำงานใหญ่ ปราบ ‘คอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด’
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงชี้แจงกรณีเหตุไฟไหม้ศาลาตรีมุข หรือศาลารวมใจ บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า ล่าสุดทหารไทย โดยกองทัพภาคที่ 2 และทหารกัมพูชา ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสำรวจความเสียหายและหาสาเหตุเพลิงไหม้ พร้อมพูดคุยกันเพื่อกำชับให้แนวชายแดนมีความเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต่างๆ
“ทุกอย่างจบด้วยการเจรจา ไม่ใช่การใช้กำลัง” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำ
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า ศาลาตรีมุขสร้างขึ้นช่วงปี 2534 เพื่อใช้เป็นจุดประสานงานร่วม 3 ประเทศ ระหว่าง ไทย-กัมพูชา-ลาว โดยมีการประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งทุกช่วงเทศกาลปีใหม่จะจัดทำบุญร่วมกัน
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องการหยามเกียรติ แต่ขอให้มองว่าขณะนี้ประเทศไทยกับกัมพูชา กำลังทำงานใหญ่ด้วยกัน ทั้งการสกัดกันยาเสพติด และการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทางการกัมพูชา ส่งคนไทยที่เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ให้ไทยแล้ว 3 ลอต แบ่งเป็น ล็อตแรก 119 ราย ล็อตสอง 102 ราย และล่าสุดลอตที่สาม 98 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา มีกำหนดการร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา หรือ GBC ครั้งที่ 17 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ -313 .-สำนักข่าวไทย