22 ก.พ.- “อี้ แทนคุณ” เปิดเส้นเงิน 3 ล้านบาทเมื่อปี 2561 บ่งชี้ “ฟิล์ม” รับโอนจาก “บริษัท ส.” ปม หลอกผู้เสียหายหลายรายลงทุนเหรียญ ผู้เสียหายฟ้องตรงต่อศาลอาญามีนบุรี ส่งหมายเรียก “ฟิล์ม” ขึ้นศาลเบิกความในฐานะพยานโจทก์ 3 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพฯ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรืออี้ แทนคุณ ประธานชมรมสันติประชาธรรม เปิดเผยว่า เรื่องราววันนี้ถือเป็น 1 ใน 7 คดีที่ตนเคยได้พูดไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งวานนี้ ตนได้เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้นำเอาพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่มี มอบให้แก่พนักงานสอบสวนแล้ว เพื่อจะได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็เป็นเรื่องโชคดีอย่างหนึ่งที่มีผู้เสียหายในคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอักษรย่อ ส. โดยบริษัทดังกล่าวนี้เป็นจำเลยในคดีเกี่ยวข้องกับเหรียญ อักษรย่อคือ เหรียญเอ เป็นการหลอกขายเหรียญ คล้ายคริปโทเคอเรนซี โดยผู้เสียหายได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีบริษัท ส. ไว้ที่ บก.ปอศ. มีหลักฐานการแจ้งความ โดยมีความเสียหายรวม เกือบ 50 ล้านบาท อีกทั้งยังได้มีการฟ้องตรงต่อศาลอาญามีนบุรีด้วย ทำให้มีหมายเรียกพยานของโจทก์ไปยัง นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นอกจากนี้การที่ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อ บก.ปอศ. ทำให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้เรียกพนักงานสอบสวนมาสอบถามความคืบหน้า เพราะทางฝั่งบริษัท ส. ก็ได้มีการซักทอดไปว่า “ได้มีการว่าจ้างศิลปินเพื่อมาเชิญชวนผู้ลงทุนในเหรียญนี้” จึงเป็นสาเหตุให้ผู้เสียหายได้ขอศาลอาญามีนบุรีออกหมายเรียกเพื่อให้บุคคลดังกล่าวขึ้นเบิกความในชั้นศาล แต่มิใช่ในฐานะจำเลย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าศิลปินรายดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะตนมีภาพถ่ายยืนยันว่าคนไหนเป็นเจ้าของบริษัท อักษรย่อ ส. และคนที่อยู่ข้างๆ ก็คือศิลปินชาย
นายแทนคุณ เผยอีกว่า ส่วนสิ่งสำคัญอีกประการคือเส้นทางการเงิน โดยเฉพาะในส่วนที่ตนได้ทำไฮไลต์สีเขียวไว้ จะเห็นความเกี่ยวข้องว่าจุดดังกล่าวเป็นชื่อของนายรัฐภูมิ มีการรับโอน 1 ล้านบาท ในวันที่ 6 ก.พ.2561 ส่วนเส้นเงินที่สองก็จำนวนรับโอน 1 ล้านบาท ในเดือน มี.ค.2561 และเส้นที่สามก็ยอดเงิน 1 ล้านบาทเช่นกัน เกิดขึ้นในเดือน มิ.ย.2561 ทำให้ที่เราหาหลักฐานมาได้เบื้องต้น ปรากฏพบว่ามีทั้งหมด 3 ล้านบาท แต่ตนไม่ได้บอกว่ามันเกี่ยวข้องอย่างไร อยากให้พนักงานสอบสวนได้ทำการสืบเสาะว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ เนื่องจากทางผู้เสียหายก็ยืนยันถึงความเสียหายหนักมาก
นายแทนคุณ เผยต่อว่า จากการที่ผู้เสียหายฟ้องตรงด้วยตัวเองต่อศาลอาญามีนบุรี และให้ศาลออกหมายเรียกพยานโจทก์ไปยังนายรัฐภูมิ จึงเป็นเหตุให้ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ให้นายรัฐภูมิได้ชี้แจงถึงความเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ส. ดังกล่าว และนายรัฐภูมิไปในงานวันนั้น ไปในฐานะอะไร และมีการเชิญชวนผู้เสียหายให้ลงทุนจริงหรือไม่ หากไม่ใช่ข้อเท็จจริงอย่างไรนายรัฐภูมิก็ต้องมาต่อสู้ในชั้นศาล
นายแทนคุณ เผยอีกว่า ข่าวดีมี 3 เรื่อง คือ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ได้พิจารณาสำนวนต่างๆ ทั้งหมด 7 คดี และ 1 เรื่อง ตามที่ตนได้นำเอาเอกสารและข้อมูลไปมอบให้ ส่วนเรื่องที่ 2 คือกรณีที่ตนได้นำเอาข้อมูลของดีเจแมนและใบเตยที่ได้ให้ไว้ ตนได้เล่าให้ท่านฟังว่าเรื่องราวแบบนี้จะมีช่องทางในการติดตามอย่างไร ทั้งนี้ตนได้บอกให้ดีเจแมนและใบเตยฟังแล้วว่าตนได้นำข้อมูลมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ขอให้ทั้งคู่สบายใจ ไม่ต้องกังวลและไม่ต้องกดดันใด ๆ ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ขอบคุณตน ส่วนเรื่องที่ 3 คือ พอเราได้เห็นภาพใหญ่ เห็นเส้นทางการเงินของฟิล์ม ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทยอยเชื่อมโยง อาจมีหมายเรียกจากเจ้าพนักงานได้ทยอยออกไป ถ้าพูดตอนนี้ก็คือ 7 คดีหลักและ 1 เรื่องของดีเจแมนใบเตย นั่นเอง
สำหรับหมายเรียกที่ตนได้นำมาแสดงในวันนี้ ตนได้สอบถามไปยังทนายของผู้เสียหาย ทราบว่าได้มีหมายเรียกไปก่อนหน้านี้แล้วแต่นายรัฐภูมิไม่ไป ซึ่งถ้าครั้งที่สองไม่ไปอีกก็อาจจะแปลงเป็นหมายจับก็ได้ -420 .-สำนักข่าวไทย