ทำเนียบ 21 ก.พ.- “ประเสริฐ” เตรียมแผนรับมือภัยแล้ง-น้ำท่วม ชี้ ต้องปิดจุดอ่อน-เสริมจุดแข็ง คาดขอ งบกลาง 3 พันล้านบาท มั่นใจไม่ซ้ำรอยปีที่แล้ว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2568 ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมถึงมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ในการรับมือกับปัญหาภัยแล้ง รวมถึงมาตรการรับมือในช่วงฤดูฝนที่กำลังใกล้เข้ามา เนื่องจากระยะเวลาเหลืออีกเพียง 2 เดือนก็จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนในเดือนพ.ค.
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในที่ประชุมได้ให้กรมชลประทานและกรมส่งเสริมจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องเกษตรกร วางแผนการเพาะปลูกข้าวนาปลัง พร้อมส่งเสริมการเพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่และแล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทานและทางบรรเทาการแก้ไขให้เกษตรกร รวมถึงหาเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ เพื่อไว้แก้ไขให้กับประชาชนและจะมีการติดตามในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ประชาชนทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและมีความคุ้มค่า สำหรับการเตรียมรับมือฤดูฝน ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 และโครงการเพิ่มกระสิทธิภาพบริหารทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อ และจะมีการการติดตามการรายงานให้คณะกรรมการได้รับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเตือนภัย ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
นายประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบผันน้ำเพิ่มเติม 7 ลุ่มน้ำ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำน้ำเพิ่มเติม ไปทำแผนในการบริหารจัดการน้ำต่อไป ซึ่งรัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย โดยวันนี้ได้มีการพูดถึงการถอดบทเรียนในปีที่ผ่านมา ซึ่งก็จะมีการปิดจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งเพื่อบรรเทาความเสียหาย ของพี่น้องประชาชนต่อไป
เมื่อถามว่า การถอดบทเรียนจะไม่เจอปัญหาเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ปีนี้เป็นการทำงานเชิงรุก ก็คือมีการเตือนภัยต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีการเตือนภัยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็ได้มีการเตือนภัย ซึ่งปีนี้ก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกันโดยเฉพาะการให้ประชาชนได้เตรียมรับมือ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีว่าสามารถแจ้งประชาชนและเกษตรกรให้รับมือได้อย่างทันท่วงที
เมื่อถามว่าได้มีการประเมินหรือไม่ว่าพื้นที่เสี่ยงมีพื้นที่ใดบ้าง นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งก็คือในเขตภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครราชสีมาเพราะปริมาณน้ำลดลง ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าในปีนี้จะมีจุดเสี่ยง 37 จังหวัด ส่วนภาวะน้ำท่วมในปีนี้คาดการณ์ว่าฝนจะมาเร็ว ซึ่งจุดใดที่มีความเสี่ยง ก็จะต้องรีบตั้งศูนย์ส่วนหน้าเพื่อบริหารจัดการงาน
ส่วนจะมีการเสนอของบกลางเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับปรุงแผนเสนองบประมาณในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดตัวเลข ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับสำนักงบประมาณ คาดว่าจะใช้งบในการบริหารจัดการประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งก็ต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการขอใช้งบกลางมีการประเมินเป็นครั้งๆไป ตามความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น.-315 -สำนักข่าวไทย