ป.ป.ช. 21 ก.พ.-“เรืองไกร” ยืนยันคดี 44 สส. ต้องฟ้องเป็นกลุ่ม เหตุเสนอญัตติแก้ ม.112 ร่วมกัน ยกตัวอย่างคดีเสียบบัตรแทน-ดิไอคอน สอบรายบุคคล แต่รวมฟ้อง
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวถึงกรณีคดี 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่ง ป.ป.ช. เรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ว่า ตามหลักการของการเสนอญัตติในสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 20 คน ดังนั้นเมื่อจะกล่าวหา ก็ต้องกล่าวหารวมกัน และเมื่อจะชี้มูลความคิด ก็ต้องชี้เป็นกลุ่ม เพราะเป็นการกระทำร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎร และในรายชื่อ แนบท้ายญัตติ ก็ปรากฏชื่อทั้ง 44 สส. ร่วมลงชื่อเสนอญัตติ
ส่วนอีก 8-9 คน ในกลุ่มของนายคารม พรหมพรกลาง อดีต สส.พรรคก้าวไกล ไม่ได้รวมลงชื่อด้วย
นายเรืองไกร ยืนยันว่า ในการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ต้องเรียกมาทั้งกลุ่ม โดยยกตัวอย่างคดีของนางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเสียบบัตรแทนกัน ในกลุ่ม สส. จำนวน 3 คน ซึ่งก็มีการฟ้องร้องรวมกันทั้ง 3 คน หรือเหมือนกรณีที่เราจับคนเล่นกันพนัน ก็ต้องฟ้องกันทั้งหมด แม้กระทั่งคดีดิไอคอนเอง ก็ต้องดำเนินคดีรวมกัน โดยการเรียกสอบเป็นรายคน
สำหรับกรณีที่จะมีการกันคนใดคนหนึ่งเป็นพยานนั้น นายเรืองไกร ระบุว่า ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอ ก็น่าจะทำได้ยาก ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการไปตามครรลองของกฎหมาย ท่านก็มีสิทธิต่อสู้ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นข้อหาจริยธรรม ซึ่งใช้คำตัดสินของศาลฎีกาเพียงชั้นเดียว ศาลเดียว และหากมีความผิดจริง ต้องเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป โดยจะอุทธรณ์ไม่ได้
“เราทำการเมืองกันมา ก็มีความปรารถนาดีด้วยกัน แต่อำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ท่านก็ทำตามอำนาจหน้าที่ของท่าน” นายเรืองไกร กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย