กำแพงเพชร 15 ก.พ.-เค้นสอบหนัก นายโน๊ต รับสารภาพฆ่า 3 ศพ พ่อแม่ลูก อำพรางในรถกระบะ อ้างผู้ตายไม่ให้ยืมเงินแสนตามที่รับปากไว้ เช้านี้ชุดประดาน้ำลงพื้นที่ค้นหาปืนและโทรศัพท์ในสระน้ำ ห่างจากจุดยิงประมาณ 1 กม.
จากเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ พ่อ แม่ และลูก รวม 3 คน อำพรางในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังหายตัวไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา และไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งญาติแจ้งความตามหาคนหาย เมื่อวันที่ 16 ม.ค. และมาพบศพวันที่ 13 ก.พ. ญาติผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า ผู้ตายมีอาชีพทั้งค้าขาย-ให้เช่าเครื่องเสียง-ปล่อยเงินกู้-ตั้งแชร์วงใหญ่ ส่วนผลการชันสูตรทั้งสามศพ เบื้องต้นพบบาดแผลจากรอยกระสุนที่ศีรษะของผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 คน คาดว่าเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.ที่หายตัวไป เนื่องจากเสื้อผ้ายังเป็นชุดเดิมในวันที่ขับรถออกจากบ้านตามภาพวงจรปิด
และเมื่อวานนี้ ตำรวจได้เชิญตัว นายศิวกร หรือโน๊ต เพื่อนของนายศิริชัย หรือบอล น้องชายของหญิงผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำ โดยเค้นสอบนานตั้งแต่ช่วงเช้ายันค่ำ ช่วงแรกยังปฏิเสธ โดยขณะเดินออกมาจากห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึง ความเชื่อมโยง ถูกเรียกสอบเรื่องอะไร ซึ่งนายศิวกร ก็บอกว่า ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา ยังไม่มีความผิด แค่เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจเท่านั้น และเมื่อถามต่อว่า มีการนำปืนไปจำนำผู้ตาย แต่นายศิวกร ไม่ยอมตอบ และเมื่อถามว่า ได้โทรออก หรือรับสายเบอร์ปริศนาของชาวพม่าหรือไม่ นายศิวกร ก็เผลอตอบว่า ตนโทรเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่พอผู้สื่อข่าวย้ำว่าโทรปริศนา นายศิวกรเหมือนได้สติ ไม่ได้ตอบคำถามอะไรอีก
กระทั่งช่วงค่ำ ถูกเค้นสอบอย่างหนัก จนยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ อ้างว่าผู้ตายรับปากว่าจะให้ยืนเงิน 1 แสนบาท เพื่อนำไปลงทุนด้านการเกษตร แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ตายกลับไม่ให้ยืมเงินตามที่ตกลงไว้ ก่อนเกิดเหตุ 12 ม.ค. มีการไปทวงถาม จนเกิดการทะเลาะกัน จึงคว้าปืนที่ตัวเองจำนำไว้ก่อนหน้านี้ และอยู่ในรถของผู้ตาย เอามายิงนายวงศกร เป็นคนแรก จากนั้นก่อเหตุยิงภรรยาและลูกชาย เพื่อปิดปาก เพราะรู้จักครอบครัวนี้เป็นอย่างดี ไม่ให้เงินจึงโกรธแค้น หลังก่อเหตุจึงโทรไปหา นายเข้ ให้มาช่วยยกศพขึ้นรถ แล้วพากันออกไปจากจุดเกิดเหตุ เอารถไปซ่อนในบ้านร้าง ก่อนที่นายโน๊ต จะเอาทองของผู้ตายไปขาย ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง โดยเจ้าของร้านทองให้เงินสดมา 3 พันบาท ก่อนจะโอนเงินจนครบ 1 แสนบาทเข้าบัญชีธนาคาร นายโน๊ต และอ้างว่าเหตุดังกล่าว ทั้งหมดเป็นเหตุซึ่งหน้า ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน จากนั้นจึงขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ นายนิรุธ หรือยศ เป็นคนซื้อซิมโทรศัพท์ ก่อนตีเนียนทำทีเป็นนายวงศกร ผู้เสียชีวิต ส่งข้อความ SMS บอกนายศิริชัย (บอล) น้องของหญิงผู้เสียชีวิต และผู้ต้องสงสัยคนสุดท้าย คือนายเข้ ที่ตำรวจกำลังไปคุมตัวมา โดยนายเข้ เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ให้นายศิวกร ไปก่อเหตุ
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/15/1739592711_948890-tnamcot-1024x573.jpg)
คดีนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนคลี่คลายคดี เริ่มจากวันพบศพ มีการเรียกพยานปากสำคัญ คือ นายศิริชัย หรือบอล น้องชายของหญิงผู้ตาย ที่ให้ข้อมูลสำคัญว่ามีข้อความอ้างตัวเป็นพี่สาว ส่งมาหาในทำนอง บอกว่าไปแจ้งความทำไม พี่มาทำธุระ กลับพรุ่งนี้ค่ำๆ บอกพ่อด้วยไม่ต้องห่วงทางนี้ ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ เลยต้องพิมพ์ฝากข้อความนี้ให้คนอื่นออกไปส่งให้ และให้ไปถอนแจ้งความ ซึ่งน้องชายเชื่อว่าเป็นของคนร้ายที่ส่งมาลวง ว่าเป็นพี่สาว จากนั้นเจ้าหน้าที่แกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์ ที่ส่งมาหาน้องชาย พบเป็นเบอร์ที่ลงทะเบียนโดยแรงงานเมียนมา โดยมีคนไทยเป็นคนซื้อซิมมาให้ส่งข้อความดังกล่าว
จากนั้นได้เรียกบุคคลต้องสงสัย คือ นายศิวกร หรือโน้ต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับน้องชายของหญิงผู้ตาย หลังพบว่าเป็นคนนำเอาปืนมาจำนำกับผู้ตาย ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นปืนบีบีกันดัดแปลงกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุ
ล่าสุด ในเช้าที่ผ่านมา ชุดอาสาสมัคร กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จัดชุดประดาน้ำธาราลงพื้นที่ค้นหาอาวุธปืนและโทรศัพท์ในสระน้ำ หมู่ที่ 8 บ้านร้อยไร่ ตำบลคลองขลุง ห่างจากจุดยิงประมาณ 1 กิโลเมตร ตามคำให้การของนายศิวกร หรือโน๊ต แต่การทำงานเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะเป็นสระขนาดใหญ่ ลึก 2 เมตร ด้านล่างเป็นดินโคลน ประกอบกับเป็นอาวุธปืน จึงต้องระมัดระวัง ในการค้นหา
ทั้งนี้มีรายงานว่าช่วงเวลา 11.00 น. พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเดินทางมาที่ สภ.คลองขลุง เพื่อแถลงชี้แจงรายละเอียดทางคดีทั้งหมดในวันนี้.-สำนักข่าวไทย