ยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลฯ

สระแก้ว 10 ก.พ. – ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช. เปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์


โดยช่วงเช้าวันนี้ที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วยนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประชุมร่วมกันทุกฝ่ายทบทวนผลการปฏิบัติที่ผ่านมา และกำหนดมาตรการร่วมอย่างเข้มข้น เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันชายแดนปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ เกี่ยวกับมาตรการระงับการให้บริการโทรคมนาคม บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว จากนั้นได้มีการชี้แจงแนวทางการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และยังร่วมกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองลึก ทำการสอบข้อเท็จจริงผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ในประเด็นการให้บริการสัญญาณโทรศัพท์จากสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้รับใบอนุญาต และการให้บริการอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศกัมพูชาของผู้รับใบอนุญาต

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า มาตรการสกัดกั้นของตำรวจได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะต้องสงสัย และได้ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ดำเนินกลยุทธ์ทุกเรื่องในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดทุกกฎหมาย โดยเฉพาะการฉ้อโกงออนไลน์ ยังมีมาตรการเด็ดขาดในการตัดสัญญาณสื่อสารที่เป็นพื้นฐานอินเทอร์เน็ตกับผู้เช่าที่ได้รับสัมปทานอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยและมีการปล่อยสัญญาณเป็นเครื่องมือให้มีการประกอบอาชญากรรมฉ้อโกงออนไลน์


สำหรับ IPLC (บริษัท รายย่อย) ที่เช่าช่วงไป หากทำผิดสัญญาโดยเฉพาะนำไปเป็นเครื่องมือประกอบอาชญากรรม จะมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ที่ส่งสัญญาณไปไกลยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะมีการลดความถี่ลง สำหรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์เป็นเครื่องมือสำคัญที่เหล่ามิจฉาชีพใช้มาหลอกลวงคนไทย การปิดกั้นพื้นที่ชายแดนร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แม้ว่าในวันนี้สถานการณ์จะยังเบาบางลงไปแล้วก็ตาม แต่ยังคงต้องมีการตรึงพื้นที่ และขยายขอบเขตพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง การฉ้อโกงออนไลน์ถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ จึงมีปฏิบัติการ “ล้มเสา ตัดสาย ทำลายซิม” เพื่อไม่ให้แก๊งอาชญากรรมเหล่านี้ทำงานต่อได้

ด้านนายไตรรัตน์ กล่าวว่า ทาง กสทช.มีมาตรการ 3 อย่าง คือ เสา สาย และซิม และเสาที่สูงเกิน 50-60 เมตร จะมีการนำลงแน่นอน จะมีการกำหนดระยะห่างจากชายแดนเข้ามาว่าจะต้องมีระยะกี่เมตร มีความสูงเท่าไหร่ และกำลังส่งหรือความแรงของสัญญาณซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่นานาชาติกำหนดไว้ ซึ่งปกติแล้วการส่งสัญญาณอาจจจะกระจายไปในประเทศเพื่อนบ้านได้นิดหน่อย แต่การล้นของสัญญาณเข้าไปจะต้องดูพฤติกรรมของประเทศเพื่อนบ้านด้วยว่ามีการสร้างอาคารเพื่อทำอะไร จึงต้องมีการกำหนดให้มีการส่งสัญญาณต่ำกว่ามาตรฐาน

สำหรับบริษัทรายใหญ่ที่เป็นทางการมี 4 ราย ส่วน และรายเล็กอีก 13 ราย การล้มเสาสัญญาณลงในวันนี้หากมีการลดกำลังส่งแล้ว ยืนยันจะไม่รบกวนการใช้โทรศัพท์ของคนไทยที่อยู่ในราชอาณาจักรอย่างแน่นอน เพราะจะมีการนำแผงส่งสัญญาณไปติดตั้งในพื้นที่ชุมชนให้ชาวบ้านได้ใช้ ส่วนเสาสัญญาณในปีที่ผ่านมา ได้ให้หมุนแผงส่งกลับมาที่ประเทศ แม้จะหมุนหันมาแล้วแต่ยังมีการเล็ดรอด ออกจากด้านหลังและด้านข้าง ซึ่งยังมีการลักลอบอยู่ โดยอีกฝั่งยังรับสัญญาณได้อยู่ แรกๆ สัญญาณจะตก แต่ระยะหลังก็กลับมาเหมือนเดิม ทางเราจึงจะกำหนดความสูงของเสาและกำหนดกำลังส่งสัญญาณและขอกำหนดที่จะติดตั้งเสาสัญญาณใหม่หลังจะมีการตัดในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งเสาที่จะติดตั้งจะกำหนดความสูง และอาจจะยังไม่ติดในข่วงเวลานี้ และตรวจสอบความต้องการใช้สัญญาณของคนในพื้นที่ และจะปล่อยให้เพียงพอและสิ้นสุดที่เขตประเทศไทยเท่านั้น


และเมื่อถามว่า สัญญาณดังกล่าวที่พบว่ามีการใช้มากขึ้นเป็นการใช้เพื่อสำหรับคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ นายไตรรงค์ บอกว่า ไม่สามารถทราบได้ว่า สัญญาณดังกล่าวใช้ด้านไหน แต่ที่ผิดปกติคือมีการใช้ที่เยอะขึ้นเท่านั้น

เมื่อถามว่าสามารถเช็คสัญญาณว่ามีการส่งเข้าเครื่องซิมบ็อกและมีเบอร์จากเครื่องซิมบ็อกโทรฯ มายังประเทศไทยหรือไม่ นายไตรรัตน์ บอกว่า เราได้ให้โอเปอร์เรชั่นตรวจสอบทางเทคนิด พบว่ามีความผิดปกติใน 1 เบอร์ ที่มาจากซิมบ็อกจะมีการโทรออกตลอดเวลา ซึ่งผิดปกติจากการโทรทั่วไป

นายไตรรัตน์ ยังบอกอีกว่า จะไปตรวจสอบและวางข้อกำหนดใหม่ในเรื่องการติดตั้งเสาสัญญาณที่อยู่ใกล้ชิดชายแดนมากเกินไป และจะไปกำหนดความสูงและความแรงการส่ง ส่วนจุดไหนที่ยังหันแผงสัญญาณไปยังเพื่อนบ้าน ทางต้นบริษัทจะต้องมาชี้แจงถึงสาเหตุการหัน ซึ่งถ้าเหตุผลไม่เพียงพอทาง กสทช. ก็จะสั่งตัด ซึ่งคาดว่าก็จะสั่งตัดทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เขตชายแดน ในระยะ 50 – 100 เมตร และถ้าหลังกำหนดขั้นตอนใหม่ไปแล้วและบริษัทเอกชนไม่ปฏิบัติตาม จะต้องร่วมรับผิดชอบ

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปบริเวณจุด เรียบทางรถไฟพบสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตส่งผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านเมื่อถามว่าตามหลักแล้วสามารถส่งสัญญาณข้ามแดนแบบนี้ได้หรือไม่ นายไตรรงค์ บอกว่า จะมีบริษัทเล็กและบริษัทใหญ่ที่สามารถรับสัมปทานในการส่งสัญญาณเหล่านี้ได้ตามถูกต้องซึ่งทาง กสทช. จะตรวจสอบว่าหากมีสัญญาณเกินที่ได้รับอนุญาตไปก็จะตัดออกทั้งหมด

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเปิดศูนย์ส่งต่อระดับชาติเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย ( Nationnal referral machannism หรือ NRM) ส่วนช่วงบ่ายตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช.จะมีการตรวจสอบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่และจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม บริเวณสถานีรถไฟด่านพรมแดนคลองลึก, สถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่หลังตลาดเบญจวรรณ และสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่บ้านโคกสะแบง ตำบลท่าข้ามอำเภออรัญประเทศ.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย