ฮาร์บิน 8 ก.พ.- รมว.กต.ต่อยอดความร่วมมือไทย-จีน คุยให้ชัดเกิดผลเป็นรูปธรรม ตั้งเป้าเรียนรู้การพัฒนาจากจีนที่ก้าวกระโดดทุกด้าน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่ง ร่วมคณะเดินทางมาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการกับนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากการที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีโอกาสหารือกับผู้นำทั้ง ประธานาธิบดี ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ และ นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนจีน และภาคเอกชน รวมทุกภาคส่วน มีหลายเรื่องที่ได้พูดคุยกันและสิ่งสำคัญที่สุดที่ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของจีน ได้พูดกับนายกรัฐมนตรีคือ การขอบคุณรัฐบาลไทยที่มีนโยบาย และมีการปฏิบัติการอย่างชัดเจน ปราบปราม ปัญหา ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางออนไลน์ หรือคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะระหว่างไทยกับจีน แต่ยังกระทบกับหลายประเทศ ในภูมิภาคและของโลกด้วย และการที่ไทยแสดงความจริงจังในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ก็เป็นที่ยอมรับ และได้รับความชื่นชมมากจากผู้นำของจีน และในหลายๆประเทศ ดังนั้นตรงนี้เราก็จะดำเนินการต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่าขณะนี้ ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาครบ 50 ปี ผู้นำจีนได้พูดกับนายกรัฐมนตรีว่าไทยและจีนจะต้องมีความสัมพันธ์ลักษณะพิเศษ จึงถึงเวลาที่ไทยและจีนจะต้องมาพูดคุยกันว่าจะต้องมีความร่วมมือในเรื่องใดบ้าง และความร่วมมือตรงนี้จะต้องถอดออกมาเพื่อให้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งขณะนี้ทุกคนทราบดีว่าจีนมีบทบาทสำคัญ เป็นประเทศหนึ่งที่มีความสามารถในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า40ปี ประเทศจีนสามารถพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจกระทั่งก้าวไปสู่ประเทศที่ก้าวผ่านกับดักของชนชั้นกลางไปได้ ซึ่งตรงนี้คิดว่าเป็นประโยชน์สำคัญที่ประเทศไทยกับประเทศจีน เราจะต้องคุยกันให้ชัดเจนและมีความร่วมมือทำให้กลายเป็นผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร สิ่งที่นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าไว้คือ การเรียนรู้จากจีน ด้วยว่าจีนสามารถพัฒนาประเทศได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร และจะนำมาใช้กับประเทศไทยได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้คิดว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
“ผมได้พูดคุยกันกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ว่าเรากำลังจะมานั่งคุยกันว่า ต้องมีการประชุมร่วมกันเพื่อวางยุทธศาสตร์ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็วและสิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจจะคุยกับจีนก็คือ เราต้องการเรียนรู้ว่า จีนพัฒนาประเทศได้รวดเร็วขนาดนี้ โดยวิธีใดเพื่อ นำกลับมาใช้ ให้เกิดประโยชน์เป็นรูปธรรมกับประเทศ เราจะได้เรียนรู้ว่าเขาใช้วิธีไหน เขาใช้รูปแบบไหน ในการพัฒนาประเทศ ผมคิดว่ามันเป็นประโยชน์และตั้งใจว่าอยากจะเห็นประเทศไทยพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เช่น ประเทศจีนเช่นกันและในทุกมิติทางมิติความมั่นคง เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจและมิติของสังคม สารถะมีความสำคัญ จะเน้นว่าเรามาวางยุทธศาสตร์ร่วมกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในหลายมิติในที่สำคัญ คือ เราจะนำรูปแบบของการพัฒนาประเทศจีนมาใช้ กับประเทศไทย ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีย้ำ อย่างมากในเรื่องนี้ ใน 3-4 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาชน พัฒนาประเทศ คือประชาชนมีกินมีใช้ ในเรื่องของด้านเศรษฐกิจ ความร่วมมือในความปลอดภัยของประชาชน ข้อมูลด้านความมั่นคง และความพร้อมของประชาชนเพื่อเตรียมการรับสิ่ง ที่มันเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ตรงนั้นก็คือยุทธศาสตร์สำคัญที่โลก” นายมาริษ กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย