8 ม.ค. – เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738986880_243315-tnamcot-1024x683.jpg)
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738987413_830090-tnamcot-1024x683.jpg)
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ เพื่อสนับสนุนงานวิจัย และนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจร สูง 14 ชั้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 45,000 ตารางเมตร ก่อสร้างปี 2562 แล้วเสร็จปี 2566 ภายในอาคาร ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนและบริหารวิจัยหลายหน่วยงาน อาทิ ศูนย์วิจัยการแพทย์ปริวรรต เป็นหน่วยงานในการเชื่อมโยงงานวิจัยทางคลินิกและวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มีธนาคาร ชีวภาพ เพื่อจัดเก็บตัวอย่างทางชีวภาพ ได้แก่ ตัวอย่างชิ้นเนื้อ เลือด และสารคัดหลั่งอื่น ๆ ของอาสาสมัครอย่างเป็นระบบ ได้มาตรฐานและถูกต้องตามหลักจริยธรรม สำหรับใช้ในการวิจัยทางการแพทย์ในอนาคต,
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738987035_026820-tnamcot-1024x683.jpg)
ห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยโรค ติดเชื้อและเชื้อก่อโรคอุบัติใหม่ เพื่อรองรับการศึกษาวิจัยในกลุ่มโรคติดเชื้อ หาแนวทางการรักษา ป้องกัน การพัฒนาวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมชีวการแพทย์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ได้รับการจัดสรรให้เป็นพื้นที่ระบบนิเวศน์วิจัยที่สำคัญสำหรับการวิจัย และการเรียนสอนในระดับปฏิบัติการของหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนแพทย์ มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมระดับสูง เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุข ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการวิศวกรรมชีวการแพทย์ในด้านต่าง ๆ
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738986968_592243-tnamcot-1024x683.jpg)
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรในราชอาณาจักรไทย”
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738986910_316863-tnamcot-1024x683.jpg)
นิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินจำนวน 80 ล้านบาท จากการบริจาคของประชาชนในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ให้แก่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์โดยเฉพาะอุปกรณ์การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง จำนวน 5 รายการ ได้แก่ เครื่องตรวจอวัยวะด้วยสารรังสีและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัลแบบ 3 มิติ เครื่องเอกซเรย์ทั่วไปแบบดิจิทัล เครื่องอัลตราซาวด์ และเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบเคลื่อนที่ เพื่อรองรับและยกระดับการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในภาคใต้
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738987186_675125-tnamcot-1024x683.jpg)
นิทรรศการผลงานนวัตกรรมเซลล์บำบัด “PSU CD19CAR-T cell” หนึ่งในการวิจัยที่โดดเด่นและเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคแพ้ภูมิตนเองที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบมาตรฐานให้กลับมามีโอกาสหาย หรือทำให้โรคสงบได้นานขึ้น ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้คิดค้นขึ้น โดยการทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีลิมโฟไซต์ มีคุณสมบัติสร้างตัวรับเฉพาะที่สามารถจดจำและกำจัดเซลล์มะเร็งในร่างกายของผู้ป่วยได้เอง ซึ่ง CAR-T cell จะถูกกระตุ้นให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และคงอยู่ได้นานในร่างกายผู้ป่วย ทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น
ในปี 2567 มีการต่อยอดการรักษาในผู้ป่วย 11 คน พบว่าผู้ป่วยทุกคนมีอัตราการตอบสนองแบบหายขาด และมีผลแทรกซ้อนน้อย การรักษาด้วยวิธีนี้ เป็นการรักษาที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ประมาณ 15-16 ล้านบาทต่อคน ทำให้ผู้ป่วยในประเทศไทยไม่สามารถเข้าถึงการรักษาชนิดนี้ได้ การพัฒนา PSU CD19CAR-T cell ในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของบุคลากรในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอีกด้วย
ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีพันธกิจสนับสนุนและส่งเสริมงานวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีคุณภาพระดับสากล บนพื้นฐานของวัฒนธรรมการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อนำองค์ความรู้มาใช้พัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738987343_210246-tnamcot-1024x683.jpg)
ศาลแขวงสงขลา จัดสร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง โดยจังหวัดสงขลามีศาลแขวง 1 ศาลเปิดทำการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2500 เป็นต้นมา เดิมใช้อาคารที่ทำการศาลจังหวัดสงขลา ถนนปละท่า ตำบลบ่อยยาง อำเภอเมืองสงขลา เป็นอาคารที่ทำการ จนกระทั่งวันที่ 15 มีนาคม 2564 ได้ย้ายที่ทำการมายังอาคารแห่งนี้ บนถนนชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ขนาด 10 บัลลังก์ มีเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยเหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมให้แก่ประชาชน สมแก่เกียรติศักดิ์แห่งสถาบันศาลยุติธรรม ซึ่งใช้อำนาจตุลาการภายใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ทุกประการ ทั้งนี้ มีเขตอำนาจศาลในจังหวัดสงขลา รวม 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอรัตภูมิ อำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอนาหม่อม อำเภอบางกล่ำ และอำเภอคลองหอยโข่ง มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา ซึ่งกฎหมายกำหนดโทษอย่างสูงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคดีแพ่ง ซึ่งราคาทรัพย์สินข้อพิพาทหรือจำนวนเงินที่ฟ้องไม่เกิน 300,000 บาท
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/08/1486098/1738987371_588301-tnamcot-1024x683.jpg)
หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร ตลอดเส้นทางมีประชาชนจำนวนมาก เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จ. -211 สำนักข่าวไทย