พรรคประชาชน นำ สส.กทม.-ส.ก. แถลงสู้ฝุ่นพิษ PM2.5

รัฐสภา 6 ก.พ.-พรรคประชาชน นำ สส.กทม.-ส.ก. แถลงสู้ฝุ่นพิษ PM2.5 ซัดรัฐบาล-กทม. เกิดช่องว่างประสานงาน ทำสถิติฝุ่นสูงกว่าปีที่แล้ว 20% ไร้มาตรการดูแลผู้สูงอายุ-เด็ก-กลุ่มเปราะบาง เป็นการฆ่าทางอ้อม เสนอให้ กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษจากการเผา ปล่อยควันดำรถยนต์ โรงงาน-ให้อำนาจ กทม. จัดหารถขนส่งสาธารณะเป็น EV ทั้งหมด

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วย สส. กทม. และ สก. ร่วมแถลงข่าวบริเวณชั้นดาดฟ้า อาคารรัฐสภา ถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า อยากให้ผู้นำทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่นคือกรุงเทพมหานครดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นอย่างจริงจัง ซึ่งมองว่าปัญหามาจากช่องว่างของการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นปีที่ 3 ของการบริหารงานของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 จนถึง 5 ก.พ. เป็นช่วงเวลาที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องอยู่ภาวะฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งถือเป็นวิกฤติปัญหาหลักในปัจจุบัน ซึ่งคนไทยรู้จักกับปัญหา PM 2.5 เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สถิติเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และ 2568 ปัญหาฝุ่นปีนี้ มีความหนักหน่วงเพิ่มขึ้นถึง 20% ปริมาณฝุ่นที่ได้รับจากการสูดอากาศเข้าไปทั้งวัน ตลอด 24 ชั่วโมง อาจจะเท่ากับการสูบบุหรี่ 1.7 มวนเลยทีเดียว ที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้พยายามผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ประชาชนทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด และการตั้งกระทู้ถามในสภา

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นไม่ได้กระทบแค่กับคนใดคนหนึ่ง แต่กระทบตั้งแต่ทารกในครรภ์มารดา จนถึงคนเฒ่าคนแก่ และผู้ป่วยติดเตียง นอกจากผลกระทบด้านสุขภาพแล้ว ยังสร้างมูลค่าความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริหารจำเป็นต้องดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง อุดช่องว่างในการแก้ปัญหา


นายณัฐพงษ์ กล่าวสรุปว่า มาตรการต่างๆ ที่คนในพรรคได้เสนอมานั้นแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1. ผู้บริหารทั้งสองระดับอาจทำมาแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ 2. อาจจะมีการสื่อสารมาแล้ว แต่ยังไม่เริ่มลงมือทำ 3. กลุ่มที่ยังไม่ได้มีการเริ่มดำเนินการใด คือ ยังไม่พอ ยังไม่ทำ ยังไม่เริ่ม

“ยังไม่พอ” นโยบาย Low Emission Zone หรือเขตควบคุมมลพิษต่ำยังไม่ครอบคลุม จำนวนที่บังคับใช้น้อยเกินไป จำนวนรถที่เข้าร่วมโครงการยังไม่มากพอ ข้อเสนอ คือ ต้องการให้มีการผลักดันการบังคับใช้มาตรการนี้ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

“ยังไม่พอ” อำนาจที่ยังไม่มากเพียงพอที่รัฐบาลส่วนกลางยังไม่ได้มอบให้กับท้องถิ่น ดังที่ กทม. สื่อสารว่ายังไม่มีอำนาจตรวจจับปรับรถที่มีควันดำ ซึ่งจะต้องอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก ซึ่งต้องสอดประสานกับรัฐบาลส่วนกลาง ที่จะมอบอำนาจให้กับท้องถิ่น


“ยังไม่พอ” การตรวจโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล นอกจากการติดตั้งเครื่องตรวจจับฝุ่นPM2.5 แล้ว การตรวจจับสารพิษสารเคมีต่างๆ ที่เป็นบ่อเกิดฝุ่นทุติยภูมิก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเตาเผาขยะของ กทม. ควรมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับมลพิษด้วย

“ยังไม่พอ” พื้นที่ปลอดภัยให้กับกลุ่มเปราะบาง เช่นห้องปลอดฝุ่นในสถานที่ศึกษา หรือสถานสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อดูแลประชากรกลุ่มเปราะบางทุกกลุ่มให้ได้รับการป้องกันอย่างทั่วถึง

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า “ยังไม่ทำ”เช่น การผลักดันพระราชบัญญัติรถเมล์อนาคต ที่กฤษฎีกาตีความว่ากทม. ไม่มีอำนาจในการทำเอง แต่เรายังมีรัฐบาลระดับประเทศที่มีอำนาจเต็มในการออกกฏหมายลำดับรองหรือประกาศต่างๆ เพื่อให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้รถโดยสารสาธารณะทุกสายต้องใช้พลังงานสะอาด หรือต้องใช้รถเมล์ไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้น

”ยังไม่ทำ“ การปรับมาตรฐานปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ ให้สอดคล้องกับอายุของรถ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานสะอาด

“ยังไม่ทำ” มาตรการเรือโดยสาร การควบคุมมลพิษเรือโดยสารทางน้ำ ที่ผู้ว่า กทม. ออกมาสื่อสารว่ายังมีอำนาจดำเนินการได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในขณะที่ “ยังไม่ได้เริ่ม” คือ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ วันนี้กรุงเทพมหานครยังขาดอำนาจการจัดการมลพิษที่มากเพียงพอ คือการรอประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษ ให้สามารถควบคุมมลพิษที่เกิดจากการปล่อยมลพิษจากภาคขนส่ง จากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาในพื้นที่ภาคการเกษตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล นี่คือข้อเสนอมาตรการทั้ง 3 กลุ่ม ที่พรรคประชาชนเชื่อว่าหากมีการดำเนินการทำอย่างจริงจังมากเพียงพอระหว่างผู้บริหารระดับประเทศและระดับท้องถิ่น จะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นPM2.5 ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พร้อมกันนี้ได้โชว์หนังสือเชิญชวนส่วนราชการทุกภาคส่วนและประชาชน ร่วมหาทางออกกำหนดแนวมาตรการนโยบายการดำเนินการทำทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยในวันที่ 13 กุมภาพันธ์คณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม และเชิญหน่วยงานราชการหารือร่วมกันในทุกส่วนมาตรการที่ได้นำเสนอไป

“ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้บริหารทั้งสองระดับ ทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะมาร่วมประชุมเองหรือส่งตัวแทนมา เพราะต้องการมีวิธีหาทางออกร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นวิกฤตร้ายแรงให้กับประชาชนได้ในทันที นอกจากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชื่อว่าหากแก้ไขปัญหานี้ได้จะเป็น โรลโมเดล ตัวอย่างต้นแบบที่สามารถแก้ไขปัญหาในจังหวัดอื่นๆของประเทศได้อีก ซึ่งไม่อีกกี่เดือนข้างหน้าพื้นที่ภาคเหนือจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งประชาชนในภาคส่วนต่างๆรอการแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกัน“ นายณัฐพงษ์ กล่าว

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาฝุ่นพิษมาอย่างยาวนานและที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่สามารถหาทางออกได้นั่นก็คือกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้เปราะบาง ซึ่งในกรุงเทพมหานครมีผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 1,240,000 ราย ถือเป็น 10% ของประชากรทั้งประเทศ ที่ต้องเผชิญชะตากรรมไปเช่นนี้ โดยเฉพาะในเขตบางแคที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากแต่ก็ยังไม่มีมาตรการใดๆ เปรียบเสมือนเป็นการฆ่าผู้สูงอายุเหล่านี้ทางอ้อม.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี