เร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายพ่อค้าขายพวงมาลัยจนสลบ

เพชรบูรณ์ 2 ก.พ.- พ่อค้าขายพวงมาลัยถูกชายนิรนามขับเก๋งดักรุมทำร้ายจนสลบ ด้านเพื่อนร่วมอาชีพที่ถูกต้องสงสัยออกมาชี้แจงไม่เกี่ยวข้องและถูกทำร้ายเช่นเดียวกัน


นายคับ อายุ 51 ปี พ่อค้าขายพวงมาลัยสี่แยกอาเซียน ถนนหล่มสัก – พิษณุโลก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ สภาพมีแผลที่หางคิ้วซ้าย หัวมีร่องรอยบาดเจ็บ และดั้งจมูกแตก เล่าให้นักข่าวฟังว่า ถูกชายนิรนาม 2 คน รุมทำร้ายจนสลบ ตอนนั้นไม่เห็นหน้าคนทำร้าย แต่มีคนที่สงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุ คือ เพื่อนร่วมอาชีพขายพวงมาลัยอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะเคยมีปากเสียงกัน เรื่องขายข้ามพื้นที่ ทั้งๆ ที่ตัวเองขายทั้งพวงมาลัยและถั่วต้มอยู่แยกนี้มานานกว่า 20 ปี แต่คนขายคนนี้เพิ่งมาขายได้ไม่นาน

ส่วนวันเกิดเหตุ ช่วง 6 โมงเช้าวันที่ 29 มกราคม ได้ขี่รถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงออกจากบ้าน เพื่อขายพวงมาลัยและถั่วต้มตามปกติ 6 โมงครึ่งมาถึงสี่แยกอาเซียน ได้สังเกตเห็นรถยนต์กระโปรงหน้าสีดำ จอดอยู่ข้างทาง แต่ไม่ได้สนใจ จากนั้นนายคับ จึงขับไปจอดตรงที่เคยจอดประจำ ซึ่งอยู่ห่างจากรถยนต์คันดังกล่าว 50 เมตร ไม่นาน ก็มีชาย 2 คนเดินมาประชิดตัวพร้อมถามว่า “ขายดีไหม” จากนั้นระดมชกเข้าที่ใบหน้าและศีรษะ ทำให้นายคับเกิดอาการมึนงง และสลบไป มารู้ตัวอีกทีเกือบ 7 โมงเช้า คลำใบหน้าดูก็พบว่ามีแผลหลายแห่ง จึงโทรบอกเมีย และขี่รถไปโรงพยาบาล ซึ่งหมอได้ทำการรักษาแผลที่หางคิ้วซ้าย ต้องเย็บ 6 เข็ม หัวแตกเย็บอีก 3 เข็ม ดั้งจมูกแตก และอาเจียนเป็นเลือด ทำให้หมอตัดสินใจเอกซเรย์สมอง และนับว่าโชคดีที่ไม่เป็นอะไร หลังจากออกจากโรงพยาบาล จึงไปแจ้งความที่ สภ.หล่มสัก และขอดูกล้องวงจรปิดในจุดใกล้เคียง เพราะกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุ ตำรวจแจ้งว่าเสีย เหตุการณ์นี้ อยากวอนตำรวจช่วยติดตามคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะตอนนี้ผวาไม่กล้าออกไปขายพวงมาลัย เกรงจะถูกทำร้ายอีก


ด้านพ่อค้าพวงมาลัยที่ถูกอ้างว่าเป็นคนก่อเหตุ พอทราบข่าวก็รีบมาชี้แจงกับนักข่าว ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว หนำซ้ำยังเคยถูกรุมยำที่สี่แยกดังกล่าวมาแล้วด้วย จากนั้นได้เล่าข้อมูลฝั่งของตัวเองว่า วันที่ 28 มกราคม ขี่รถมาที่สี่แยก ขณะกำลังกรอกถั่วใส่ถุง สังเกตเห็นว่า นายคับเดินไปอีกฝั่งถนน เพื่อพูดคุยกับชายคนหนึ่ง ก่อนที่จะชี้มือชี้ไม้มาที่ตน

จังหวะนั้น เมื่อนายคับเดินมาหา ตนจึงพูดไปว่า “แบ่งกันทำมาหากินมั่ง” เพราะขายอยู่คนละฝั่งถนน ทำให้นายคับมองหน้าด้วยความไม่พอใจ แต่ก็แยกย้ายกันไป เพียงแต่ตนสังเกตว่า นายคับโทรหาใครสักคนหนึ่ง และสักพักได้มีชายขี่รถมาหา ซึ่งส่วนตัวจำได้ว่า เป็นลูกเขยของนายคับ และญาติอีก 2-3 คน ไม่ถึง 3 นาที วัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมาตะโกนขอซื้อถั่วต้ม ตนก็วิ่งจากอีกฝั่งถนนมาขายให้ แต่พอถามไปว่า “จะเอากี่ถุง” วัยรุ่นที่ซ้อนท้ายรถ ได้ลงมารัวหมัดใส่ ทำให้ตนเซและล้มลม ส่วนถั่วต้มทั้งพวงมาลัยตกกระจายเกลื่อนพื้น โชคดี รถที่ขับผ่านไปมาเบรกทัน ไม่เช่นนั้นตนอาจถูกรถเหยียบแน่นอน

หลังเกิดเหตุ วัยรุ่นได้กระโดดขึ้นรถหนีไป ตนเองก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่โรงพักหล่มสักแล้ว และผ่านมาแค่วันเดียว นายคับ ก็ถูกทำร้าย ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า ตนไปจ้างคนมาทำร้าย วันนี้ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น และอยากให้ตำรวจ ติดตามจับกุมตัวคนที่ทำร้ายตนมาลงโทษให้ได้เหมือนกัน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว