เพิ่มมาตรการเข้มยื่นจดทะเบียน ป้องกันนิติบุคคลผี

กทม. 2 ก.พ. – รัฐบาลเดินหน้าเพิ่มมาตรการเข้มงวดการยื่นจดทะเบียน ป้องกันนิติบุคคลผี หลอกลวงประชาชน เพื่อดูแลป้องกันประชาชน กำจัดนิติบุคคลผี


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล เดินหน้าเพิ่มมาตรการป้องกันนิติบุคคลผี หลอกลวงประชาชน เพื่อดูแลป้องกันประชาชน และกำจัดนิติบุคคลผี ที่จะเข้ามาหลอกลวงประชาชน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ยกร่างคำสั่งนายทะเบียนกลาง เพื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติมกรณีที่มาจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งสำนักงาน ที่จะแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ตั้งยินยอมให้ใช้เป็นสำนักงานนิติบุคคล เช่น สัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่จากเจ้าบ้าน โดยจะเร่งเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นเรื่องดังกล่าวตามกระบวนการยกร่างกฎหมาย เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียแจ้งความเห็น และผลกระทบต่อร่างคำสั่งดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการตรวจเช็กสถานที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคล จะจัดทำระบบให้ประชาชนตรวจเช็กว่าบ้านหรือที่อยู่ มีการนำไปใช้เป็นที่ตั้งของนิติบุคคลหรือไม่ คาดว่าจะเสร็จใน 2 สัปดาห์ หากประชาชนพบว่ามีการนำที่อยู่ไปใช้โดยไม่ได้ให้ความยินยอม สามารถแจ้งมายังกรม สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรืออีเมล cgbusiness@dbd.go.th (เฉพาะกรุงเทพฯ) หรือสายด่วน 1570

นายคารมกล่าวต่อว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะประสานความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตรวจสอบสถานที่ตั้งนิติบุคคลตามที่ผู้ขอจดทะเบียนได้แจ้งไว้และปักหมุดพร้อมแสดงภาพถ่ายในลักษณะแผนที่ Google Map เพื่อให้ตรวจสอบที่ตั้งบริษัทและเห็นภาพจริง หากตรวจสอบพบว่านิติบุคคล มีที่ตั้งไม่ตรงกับที่แจ้งจดทะเบียน จะระบุหมายเหตุในหน้าหนังสือรับรองว่า “ไม่มีสถานที่ตั้งจริง” เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ที่ต้องการจะทำธุรกิจระมัดระวัง และจะส่งเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


“กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้มงวดการมายื่นจดทะเบียนของบุคคล ที่มีรายชื่อในบัญชี HR-03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หากมายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล หรือแจ้งชื่อเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัท จะเรียกมาแสดงตน หากไม่มาก็จะไม่จดทะเบียนให้ และยังจะส่งข้อมูลต่อให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อติดตามขยายผล ส่วนกรณีที่มีนิติบุคคล ใช้ที่อยู่เดียวในการจัดตั้งหลาย ๆ บริษัท สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ได้มีข้อห้ามตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างพัฒนาระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) ซึ่งจะใช้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยแจ้งเตือนประชาชนทั่วไปให้ทราบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น” นายคารม ระบุ.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว