ทำเนียบ 2 ธ.ค.-“จิราพร” ยินดีไทยเตรียมนับถอยหลัง 22 มกราคม 2568 เริ่มใช้กฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” ชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนกล่าวสุนทรพจน์ หัวข้อ “ความสำเร็จของสมรสเท่าเทียม บันไดสู่การสร้างความเท่าเทียม” ในงานแถลงข่าว “วันสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Day)” ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วม
นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลที่นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมาว่า คนทุกเพศ และความรักทุกรูปแบบ ควรได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียม และเป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชียที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม จนทำให้ความรักของคนไทยทุกคนสามารถถูกรับรองทางกฎหมาย ได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยตระหนักและเคารพในความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพ เพศวิถี เชื้อชาติ ศาสนา
“การเดินทางเพื่อปักธงกฎหมายสมรสเท่าเทียมในครั้งนี้ นอกจากความมุ่งมั่นของรัฐบาลแล้ว ยังได้รับแรงสนับสนุนจากพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ร่วมมือกันผ่านกลไกรัฐสภา และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ คุณเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้คำมั่นสัญญากับประชาชน ในการผลักดันกฎหมายดังกล่าวอย่างมุ่งมั่น และทำงานร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ และส่งต่อการทำงานถึงรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ภาคประชาชนและพี่น้อง LGBTQIA+ ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักในการสร้างความตระหนักรู้ ทำงานทางความคิดและสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคม ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยสามารถขับเคลื่อนกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้สำเร็จ” น.ส.จิราพร กล่าว
สำหรับงาน “วันสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Day)” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568 โดย Bangkok Pride พร้อมด้วยพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน มีความตั้งใจที่จะจัดงานจดทะเบียนสมรสเชิงสัญลักษณ์ให้กับคู่รัก LGBTQIAN+ ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 19.00 น. เพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นของความเท่าเทียมในประเทศไทย รวมถึงเป็นโอกาสให้คู่รักได้เข้าร่วมกิจกรรมและพบปะกับชุมชนที่สนับสนุนความเท่าเทียม.-314.-สำนักข่าวไทย