สมาคมประมงฯ ยืนยันเรือไทยไม่รุกล้ำน่านน้ำเมียนมา

กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.-สมาคมการประมงฯ ยืนยันเรือประมงไทยไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำเมียนมา ชี้มีระบบ VMS ติดตามพิกัดเรือแบบเรียลไทม์ หากเข้าใกล้แนวเขตแดน กรมประมงจะเรียกกลับทันที ชี้ไม่มีเรือประมงลำใดฝ่าฝืนกฎหมายที่มีโทษหนัก ปรับหลักล้าน หวั่นการสื่อสารของบางหน่วยงานที่คลาดเคลื่อน อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าประมง หากประเทศคู่ค้าเข้าใจว่า ไทยทำประมง IUU


นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลาและรองประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยซึ่งดูแลงานระหว่างระหว่างประเทศกล่าวว่า ได้ประสานนายสมทรัพย์ จิตตะธัม นายกสมาคมประมงระนองเพื่อขอทราบข้อมูลเหตุการณ์ที่เรือประมงในพื้นที่จังหวัดระนองถูกเรือของทางการเมียนมายิงจนมีผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้ถูกควบคุมตัวไว้ โดยเจ้าของเรือยืนยันแก่สมาคมประมงระนองว่า ได้เดินเรือเข้าใกล้แนวเขตแดนไทย-เมียนมา แต่ยังอยู่ในน่านน้ำไทย ไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำเมียนมาอย่างแน่นอน

ขณะนี้เชื่อว่า กรมประมงกำลังตรวจสอบพิกัดเรือ ณ จุดเกิดเหตุ โดยติดตามประวัติการเดินเรือจากระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) ซึ่งตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ระบุให้ เรือประมงพาณิชย์ที่มีขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปต้องติดตั้งระบบ VMS ซึ่งเป็นระบบติดตามเรือที่ประมงทั่วโลกนำมาใช้ควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมงผิดกฏหมาย (IUU Fishing) ด้วยการนำเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ต จุดพิกัดดาวเทียม (GPS) และเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือ (Global Service Mobile : GSM) มาทำงานร่วมกันเพื่อให้ทราบถึงพิกัดเรือประมง (Vessel Positioning System : VPS) ได้แบบเรียลไทม์


ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (Fisheries Monitoring Center – FMC) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรมประมง FMC ติดตามตรวจสอบการเดินเรือของเรือประมงพาณิชย์ทุกลำอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ VMS จะต้องส่งสัญญาณกลับมายังศูนย์ PIPO ตลอด หากสัญญาณหายเกินกว่า 6 ชั่วโมง กรมประมงจะสั่งให้นำเรือกลับเข้าฝั่งทันที นอกจากนี้หากเดินเรือเข้าใกล้แนวเขตหวงห้ามเช่น เข้าใกล้ชายฝั่ง ออกนอกแนวเขตแดนระยะ 50 เมตร กรมประมงจะสั่งให้นำเรือกลับเข้าฝั่งทันทีเช่นกัน ถ้ายังฝ่าฝืน กรมประมงจะส่งเรือตรวจการณ์ไปลากเรือลำนั้นกลับ

ในหลักปฏิบัติ หากเรือประมงลำใดเข้าใกล้แนวเขตแดนในระยะ 500 เมตร ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงหรือศูนย์ FMC จะส่ง SMS แจ้งเตือนเจ้าของเรือเพื่อแจ้งต่อผู้ควบคุมเรือว่า เข้าใกล้เส้นเขตแดน โปรดเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ทั้งยังจัดเป็นกลุ่มเรือเฝ้าระวัง โดยติดตามและเฝ้าสังเกตพฤติกรรมอย่างเข้มงวดว่า จะถอยออกจากแนวเขตหรือยังฝืนทำประมงบริเวณนั้นต่อ การรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้านเพียง 50 เมตรถือว่า มีความผิดตามกฎหมายแล้ว โดยมีโทษปรับเป็นล้านบาทจึงไม่มีเจ้าของเรือรายใดยอมเสี่ยง อีกทั้งในการออกทำประมงครั้งต่อไป เรือที่ทำผิดจะถูกปรับจาก “เรือสีขาว” เป็น “เรือสีเทา” ดังนั้นนับตั้งแต่พระราชกำหนดการประมงมีผลบังคับใช้ในปี 2558 ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์จึงปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้เรือประมงพาณิชย์จะตั้งพิกัดและเส้นทางเดินเรือไว้ล่วงหน้าว่า จะใช้เส้นทางใดและถึงจุดไหนที่จะต้องถอยกลับ เจ้าของเรือซึ่งถูกเรือของทางการเมียนมายิงได้ส่ง SMS จากกรมประมงมาให้ดูว่า ได้รับเฉพาะคำเตือนว่า อยู่ใกล้เส้นเขตแดน โปรดเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยไม่ได้รับคำเตือนเพิ่มเติมว่า เดินเรือออกนอกน่านน้ำไทย จึงแสดงว่า เรือประมงไทยยังไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำเมียนมา


นายสุรเดชกล่าวถึงการที่บางหน่วยงานสื่อสารออกไปว่า เรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา กลายเป็นข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก อาจกระทบต่อภาคการประมงของไทยได้ โดยไทยส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปหลายประเทศ หากถูกเข้าใจผิดว่า มีการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU fishing) แล้วถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมประมงไทย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแก้ไขความคลาดเคลื่อนของข่าวสารและสื่อความจริงออกไป

นอกจากนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการกระบวนการแก้แก้กฎหมายการประมง โดยเตรียมจะออกพระราชบัญญัติการประมงเพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล อาจถูกนานาชาติมองว่า พยายามแก้ไขกฎหมายเพื่อเอื้อต่อการทำประมงแบบ IUU

ล่าสุดสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยเตรียมออกหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งเจรจากับทางการเมียนมาเพื่อขอให้ส่งตัวคนไทยและเรือไทยกลับคืนมา รวมทั้งต้องทบทวนขั้นตอนปฏิบัติระหว่างประเทศที่มีพรมแดนติดกันว่า หากเข้าใจว่า มีการเดินเรือเข้าใกล้แนวเขตแดนและต้องการเตือน ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเช่น เริ่มจากการฉีดน้ำใส่ ไม่ใช่เริ่มต้นด้วยกระสุนจริงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย