กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – “พิชัย” จับมือทูตลักเซมเบิร์ก เร่งดัน FTA ไทย-อียู ประตูสินค้าไทยสู่ตลาดอียู 27 ประเทศ พร้อมอำนวยความสะดวกนักธุรกิจลงทุนในไทย
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ซึ่งได้เชิญชวนให้ลักเซมเบิร์กขยายการลงทุนในไทย โดยมีความสนใจลงทุนอุตสาหกรรมอุปกรณ์เซนเซอร์รถยนต์ในไทย ทั้งนี้ ลักเซมเบิร์กเป็นประเทศที่มีจุดแข็งในการให้บริการทางด้านการเงินและการธนาคาร เทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของยุโรป (Investment Fund) ปัจจุบันมีการลงทุนในไทยหลายอุตสาหกรรมเช่น โลจิสติกส์ (บริษัท Cargolux) ดาวเทียม (บริษัท SES) เหล็ก (บริษัท AcelorMittal) และกระจก (บริษัท Guardian Glass) นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ลักเซมเบิร์กในฐานะประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) สนับสนุนการเจรจา FTA ไทย-อียู เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้โดยเร็ว
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นายชอง รีส์ (Mr. Jean Ries) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการรัฐและสาธารณะของบริษัท Guardian Glass Europe ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลักเซมเบิร์ก ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในไทย โดยบริษัทลงทุนในไทยตั้งแต่ปี 2535 มีโรงงาน 2 แห่ง ณ จังหวัดสระบุรีและจังหวัดระยอง ผลิตกระจกเคลือบสำหรับอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย และรถยนต์ โดยบริษัทตั้งใจจะลงทุนในไทยเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี บริษัทเผชิญปัญหาจากราคาพลังงานสูง การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากระจกโฟลตของจีนไทเป และการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นของมาเลเซีย ซึ่งตนได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศและกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือโดยเร็ว
สำหรับปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) ลักเซมเบิร์กเป็นคู่ค้าอันดับ 161 ของไทย การค้ารวมมีมูลค่า 12.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 0.0028 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 31.10 โดยไทยส่งออก 3.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 59.47 และไทยนำเข้า 9.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 11.72 ไทยเสียเปรียบดุลการค้า 6.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ. -511- สำนักข่าวไทย