ธปท.แย้มสิ้นปีได้ข้อสรุปมาตรการแก้หนี้

กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – ธปท.แย้มได้ข้อสรุปมาตรการแก้หนี้ภายในสิ้นปีนี้ ชี้ลดเงินนำส่งกองทุน FIDF ไม่ซ้ำรอยปี 63 เหตุแบงก์แข็งแกร่ง เผยไตรมาส 3/67 สินเชื่อแบงก์หดตัวที่ 2.0% แต่ NPL เพิ่มเล็กน้อยที่ 2.97%


นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงภาพรวมระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2567 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง โดยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ หดตัวที่ 2.0% จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยหลักจากการชำระคืนหนี้ที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการจ่ายคืนหนี้ของภาครัฐและธุรกิจขนาดใหญ่ แม้การให้สินเชื่อใหม่ยังมีต่อเนื่องในธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคบริการ อสังหาริมทรัพย์ พาณิชย์ และสินเชื่ออุปโภคบริโภคประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่มีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่สินเชื่อในภาคธุรกิจที่เผชิญปัญหาความสามารถในการแข่งขันยังคงหดตัว โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ทั้งนี้ ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ ไตรมาส 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.53 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ร้อยละ 2.97 (ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานสินเชื่อที่ปรับลดลง) จากทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยธนาคารพาณิชย์ยังบริหารจัดการคุณภาพหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับสัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม อยู่ที่ร้อยละ 6.86 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการจัดชั้นเชิงคุณภาพของธนาคารพาณิชย์ โดยธุรกิจยังสามารถชำระคืนหนี้ได้ตามเงื่อนไขสัญญา และสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 ปรับดีขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการวัดมูลค่าตราสารทางการเงิน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง ทั้งนี้ หากเทียบไตรมาสก่อน กำไรสุทธิปรับลดลง โดยหลักจากการลดลงของรายได้เงินปันผลตามปัจจัยฤดูกาล แม้ค่าใช้จ่ายสำรองปรับลดลง


อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจ SMEs และครัวเรือนบางกลุ่มที่รายได้ฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง รวมถึงธุรกิจในกลุ่มที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ NPL ยังมีแนวโน้มทยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้และไม่เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด (NPL cliff) โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 2 ปี 2567 ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงสอดคล้องกับกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ปรับลดลงตามการหดตัวของสินเชื่อและตราสารหนี้ ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในภาคการผลิต

สำหรับความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างหนี้สะสมของระบบสถาบันการเงินในรอบ 9 เดือนปี 2567 มีจำนวนบัญชีที่ได้รับความช่วยเหลือสะสม 6.10 ล้านบัญชี แบ่งเป็น ลูกหนี้แบงก์-นอนแบงก์ 1.90 ล้านบัญชี, ลูกหนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือ SFIs 4.20 ล้านบัญชี โดยคิดเป็นยอดภาระหนี้ที่ได้รับการช่วยเหลือสะสม 2.08 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น แบงก์-นอนแบงก์ 0.80 ล้านล้านบาท และ SFIs 1.27 ล้านล้านบาท

นางสาวสุวรรณี ยังกล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย ว่ายังอยู่ระหว่างการหารือระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. สมาคมธนาคารไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า เพื่อหามาตรการที่เหมาะสม ไม่ทับซ้อนกัน และช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาได้ถูกกลุ่ม ซึ่งในการแก้หนี้ครั้งนี้ถือว่าแตกต่างจาก ปี 2563 ที่เป็นช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด เช่น การลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่เมื่อปี 63 เคยลดการนำส่งเช่นกัน แต่ธนาคารพาณิชย์ยังไม่มีความแข็งแรง แต่ในรอบนี้ธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่งแล้ว คาดจะมีความชัดเจนในปลายปีนี้ และจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง


ทั้งนี้ ยอมรับว่าการลดเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF จะต้องยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป โดยการลดเงินทุกๆ 0.23% ต่อปี จะทำให้ต้องขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปอีกครึ่งปี โดยปัจจุบันกองทุน FIDF มีภาระหนี้ 5.5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์จะต้องมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของแต่ละธนาคารด้วย

ส่วนมาตรการของรัฐบาลในการพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี เป็นสิ่งที่กำลังหารือร่วมกันเช่นกัน เพื่อออกแบบมาตรการที่ไม่เป็นภาระเพิ่มเติมต่อลูกหนี้รายย่อย โดยจะมีการกำหนดคุณสมบัติของลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจและเลือกเข้ามาตรการตามความเหมาะสมของตนเอง.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม