พระนครศรีอยุธยา 18 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีเปิดโครงการเปิดน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง และประตูระบายน้ำบ้านแพน ย้ำเร่งวางแผนบริหารจัดการน้ำ ขอให้ทุกคนร่วมมือแบบประชารัฐ ระบุ สนใจการต่อเรือในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เดินทางมายัง หมู่1 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการทุ่งรับน้ำตามโครงการเปิดน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง และเปิดประตูระบายน้ำบ้านแพนเข้านา ซึ่งมีพื้นที่นาทั้งหมด 6,011 ไร่ สามารถรับน้ำได้ทั้งหมด 20 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยนายกรัฐมนตรีได้ปล่อยพันธุ์ปลา 940,000 ตัว ประกอบด้วย ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลาหมอชุมพร ปลาไน และปลานิล รวมถึงพันธุ์กุ้งก้ามกราม เพื่อทดลองเลี้ยงกุ้งในพื้นที่รับน้ำ
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะกับประชาชน และ ร่วมพิธีปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง เป็นโครงการที่ดีอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่รัฐบาลเห็นด้วยเห็นชอบและจะทำต่อไป และสิ่งที่รัฐบาลนี้เป็นห่วง คือผู้ที่มีรายได้น้อยที่ขึ้นทะเบียนถึง 14.7 ล้านคน แต่จะให้นำเงินมาแจก หรือตั้งราคาข้าวสูงก็จะกลับไปมีปัญหาเช่นเดิม ดังนั้นต้องพัฒนาให้มีเกษตรผสมผสานและลดต้นทุนการผลิต ขอให้ช่วยตนคิด เพราะเราต้องทำให้ประชาชนมีอยู่มีกินได้ ทั้งนี้ระหว่างทางพบเห็นอู่ต่อเรือ ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจในการพัฒนาการต่อเรือ
“เมื่อกี้เดินผ่านเห็นเขาต่อเรือ หันไปถามผู้ว่าฯ ก็บอกเป็นจุดต่อ ก็ตาลุก ว่าต่อเรือขนาดนี้เลยหรือ เดี๋ยวจะไปบอกให้กระทรวงกลาโหม ดูว่าจะต่อเรือรบได้หรือไม่ เพราะโรงงานไม่มีอะไรมาก แต่ต่อเรือได้ขนาดนี้ นี่คือนวัตกรรมของคนไทยแล้ววันหน้าจะต่อเรือดำน้ำได้หรือไม่ ให้กระทรวงกลาโหมรับไป เพราะคนไทยมีฝีมือทั้งนั้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จังหวัดอยุธยาคือเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่ใกล้กรุงเทพฯมีทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม มีปัญหาจากภัยธรรมชาติบ้าง แต่ทุกคนต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำรัฐบาลต้องวางแผนและดำเนินการให้เกิดผลอย่างยั่งยืน ซึ่งตนเองติดตามเรื่องของปริมาณน้ำและการปล่อยน้ำในทุกวัน ถือเป็นเรื่องยากในการแก้ไขปัญหาถ้าทุกอย่างต้องใช้ระยะเวลา
“ถ้าผมแก้ไม่ได้ ยืนยันไม่มีใครแก้ได้ เชื่อหรือไม่ ผมมีอำนาจ ขนาดนี้ผมยังแก้ได้แค่นี้เลยผมจะไปสั่งน้ำอย่าท่วมฝนอย่าตกได้หรือไม่ก็ไม่ได้ทั้งนั้น สั่งอย่างเดียวคนอย่าทำผิดกฎหมายปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน แต่สิ่งที่ผมต้องการพูดง่ายๆก็คือร่วมมือกัน จับมือกันแบบประชารัฐ ภาคเอกชน ภาครัฐ ไม่ใช่ทะเลาะกันไปมา ผมไม่เคยโทษท่าน แต่ผมโทษพวกผม ตัวผม ผมเลือกรัฐบาลทุกพรรค ถ้าเมื่อไหร่รัฐบาลดีผมก็ดีใจเมื่อไหร่รัฐบาลผิดแสดงว่าผมเลือกผิด ผมจะโทษใคร เพราะผมเป็นส่วนหนึ่ง ในการเลือกรัฐบาลทุกครั้ง ดังนั้นการเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกคนต้องเดินหน้าไป ผมไม่มีศัตรูเป็นพรรคใครทั้งสิ้น ใครจะด่าจะว่าผม ผมไม่สนใจ เดี๋ยวก็ท้อกันไปเอง เพราะว่าผมไม่เคยว่าท่าน ท่านไม่ยุ่งกับผม ผมก็ไม่ยุ่งกับท่าน แต่ท่านก็ต้องร่วมมือกับเราในการเดินหน้าประเทศ จำไว้นะ ถ้าเขายังพูดจาให้บ้านเมืองเสียหาย ก็ไปยาก ทะเลาะกันทำไม เรื่องเดิมๆ เรื่องเก่าๆ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งก็จะเกิดขึ้นตามโรดแมป ถ้ามีการกำหนดวันเลือกตั้งเมื่อใด พรรคการเมืองก็จะสามารถเริ่มดำเนินการตามกระบวนการหาเสียงได้ ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนได้เพราะกฎหมายลูกยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ตนไม่เคยว่าใครเราต้องร่วมมือกันในการเดินหน้าประเทศ แต่ถ้ายังพูดจาให้บ้านเมืองเสียหายก็จะเดินหน้ายาก
“ทำไมรัฐบาลถูกโจมตีมากขนาดนี้บางเรื่องก็จบไปตั้งนานแล้วยังขุดกันมาตอนนี้เพราะอะไร มันมีคดีอะไรอีกหรือเปล่า ขอให้คิดดู ไม่ใช่ไปเชื่อทั้งหมดแล้วท้ายที่สุดก็ไม่เหลือคนดีขอให้กลับไปคิดใหม่ พูดไปก็อารมณ์เสียขุดแล้วขุดอีก ศาลตัดสินแล้วก็ไม่เลิก ไปสนใจคดีที่ยังไม่ตัดสินโน้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีฝากทุกคนว่า อย่าโกรธเคืองตนเอง เพราะแม้จะโกรธเคืองไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะตนจะยังอยู่ทำหน้าที่ตรงนี้ และขอทุกคนอย่ากลัวตนเองเพราะตนไม่ทำร้ายประเทศ ชีวิตของตนสละไว้เพื่อประเทศและประชาชน ที่ผ่านมาทำหน้าที่อยู่ที่ชายแดนมานาน.-สำนักข่าวไทย