อาคารชินวัตร3 29 ส.ค.-“ภูมิธรรม-ธรรมนัส” เตรียมลงพื้นที่สุโขทัย-นครสวรรค์ ติดตามสถานการณ์น้ำเหนือ มั่นใจบริหารจัดการน้ำได้ ไม่กระทบพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ยืนยันไม่กระทบเรื่องงบประมาณ เป็นรัฐบาลมีอำนาจเต็ม สามารถของบ และสั่งการได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือถึงสถานการณ์น้ำ ว่า วันนี้เป็นการสรุปสถานการณ์น้ำท่วม ก่อนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่น้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัยในวันพรุ่งนี้ ส่วนตนเอง และร้อยเอกธรรมนัส จะลงพื้นที่ในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยจะไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย และนำแผนที่ของ GISTDA และหลายภาคส่วนมาพิจารณาแล้ว เพื่อหาแนวทาง และการสั่งการ เพื่อแก้ไขปัญหา
ขณะที่ร้อยเอกธรรมนัส สถานการณ์น้ำเหนือ ณ ขณะนี้ โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม ที่จังหวัดสุโขทัย สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดสุโขทัยเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ ณ เวลานี้ และวันพรุ่งนี้จะไปดูที่บริเวณปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ด้วย พร้อมย้ำว่าสถานการณ์ขณะสามารถบริหารจัดการได้
ส่วนหลังจากนี้จะมีมรสุมอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งที่นายภูมิธรรมเป็นห่วงคือ น้ำเหนือจะมาอีกครั้ง แต่ได้เฝ้าติดตามการพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งสถานการณ์น้ำในเวลานี้สามารถควบคุมได้ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้
นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง และพยายามป้องกัน แต่เรื่องน้ำมีอุบัติเหตุได้ เพราะมีพายุเข้ามา และเท่าที่ดูสามารถควบคุมได้
สำหรับกรณีที่ชาวภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร มีความเป็นห่วงว่าน้ำจะทะลักเข้ามา นายภูมิธรรม ย้ำว่า ไม่น่าเป็นห่วง เพราะได้สกัดน้ำไว้แล้ว คิดว่าสถานการณ์เฉพาะหน้าขณะนี้สามารถเอาอยู่ ไม่มีปัญหา แต่หากมีพายุเข้ามาก็ต้องดูปริมาณน้ำที่จะเข้ามาด้วย โดยได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว ซึ่งในการลงพื้นที่ในวันเสาร์นี้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. จะนำแผนที่ไปดูจุดอ่อน รวมถึงจะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถสั่งการได้ตรงนั้นเลย เพราะเป็นศูนย์อำนวยการส่วนหน้าอยู่แล้ว
นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า ขณะนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ สามารถทำหน้าที่ได้เต็มที่ และไม่ส่งผลกระทบกับงบประมาณ หากพบปัญหาสามารถดำเนินการ และใช้งบกลางได้ทันที ซึ่งขณะนี้ได้วางงบให้ทุกส่วนแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหลังมีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ที่มีงบประมาณอยู่แล้ว 20 ล้านบาท สามารถนำไปดำเนินการได้ทันที รวมถึงกลุ่มจังหวัดที่มีงบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง แต่นอกเหนือจากนี้ก็สามารถอนุมัติงบกลางในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติได้
นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง และทุกภาคส่วนได้เตรียมเร่งดำเนินการแล้ว ขณะนี้ได้ป้องกัน และดูเขื่อนต่าง ๆ ให้มั่นคงแข็งแรง ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะไปดูแผนรวมทั้งหมด เพื่อบัญชาการที่ศูนย์ส่วนหน้าได้เลย.-316.-สำนักข่าวไทย