จันทบุรี 15 ก.ย.-ตำรวจคุม 2 วัยรุ่นทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีรุมทำร้ายชายวัย 35 จนสลบ หลังไม่พอใจถูกบีบแตรขอทาง พี่ชายผู้เสียหายแค้นแหวกวงล้อมชกหน้าคว่ำ
ความคืบหน้าคดีวัยรุ่น 2 คนรุมทำร้ายนายศรายุทธ อายุ 35 ปี ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี จนสลบ สาเหตุบีบแตรใส่เพื่อขอทาง วันนี้พันตำรวจเอกเสน่ห์ จรรยาสถิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี พร้อมด้วย พันตำรวจโทธัญภัทร บุญสุข รองผู้กำกับสืบสวนสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี นำกำลังตำรวจสืบสวน ร่วมกันควบคุมตัว นายชนวีร์ อายุ 19 ปี และ นายพีรศุภ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีบรรดากองทัพสื่อมวลชนในจันทบุรี ตลอดจนชาวบ้านที่ติดตามข่าว ต่างมารอสังเกตการณ์และดูโฉมหน้าผู้ต้องหาทั้งสองคนกันแน่นขนัด ขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามายืนชี้จุดที่ช่วยกันรุมทำร้ายนายศรายุทธ บริเวณทางเข้าด้านข้างโรงแรมจันทบุรี เซ็นเตอร์ จู่ๆ มีญาติของนายศรายุทธ และผู้สื่อข่าวอาวุโสสังกัดหนึ่งฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตรงเข้าใช้หมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าผู้ต้องหาทั้งสองคนจนเกือบล้มคว่ำ ด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้น ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนขึ้นรถ นำตัวไปฝากขังต่อที่ศาลจังหวัดจันทบุรีทันที
ขณะเดียวกัน นายศรายุทธ ผู้ที่ถูกรุมทำร้ายแพทย์ได้อนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวรอดูอาการ เดินทางมาสังเกตการณ์ทำแผนครั้งนี้ด้วย สภาพใบหน้าและที่เบ้าตายังมีรอยเขียวฟกช้ำ โดยนายศรายุทธ ได้เปิดเผยถึงนาทีที่ถูกทำร้ายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.30 น.เช้ามืดของวันที่ 14 ก.ย. 60 ได้ขับขี่รถรถจักรยานยนต์ รีบไปทำข่าวเพลิงไหม้ห้องแถว เข้ามาภายในซอยบัวสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 200 เมตร ระหว่างทางได้พบ ผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้ขี่รถรถจักรยานยนต์ ประกบข้างคุยกันจนเต็มเลนส์ซ้าย จึงได้ทำการบีบแตรเพื่อขอทางและเร่งเครื่องแซงขึ้นมาทางขวา เนื่องจากจะรีบไปทำข่าวไฟไหม้ ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน เกิดความไม่พอใจ หันมาตะโกนเรียกให้จอดรถ จากนั้นจึงได้ตรงเข้าทำร้าย ก่อนที่ตนเองจะจอดรถวิ่งหลบหนีไปช่วงบริเวณทางเข้าโรงแรม เพื่อขอความช่วยเหลือ จนถูกตามมาทัน ได้พยายามหันกลับไปต่อสู้เพื่อป้องกันตัว ก่อนที่จะถูกผู้ต้องหาทั้งสองคมรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยอาการบาดเจ็บขณะนี้ยังมึนงงสมองสั่งการไม่เต็มร้อยและยังมีภาวะอาเจียนซึ่งจะมีเลือดผสมออกมาด้วย ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาได้แนะนำว่าระหว่างที่กลับมาพักฟื้น หากมีอาการข้างเคียงอีกให้รีบกลับไปรักษาต่อทันที ส่วนเรื่องการดำเนินคดี หลังการสอบสวนและนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับบาดเจ็บและทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ทำข่าวของ นายศรายุทธ ได้รับความเสียหาย ซึ่งเกิดในขณะถูกรุมทำร้าย ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั้น ยังคงต้องรอผลการตรวจร่างกาย จากแพทย์ที่ทำการรักษาอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย