กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – คลังเปิดตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนคนจนวันแรก ผ่าน 3 ช่องทาง ก่อนแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 21 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ได้เดินทางมาตรวจสอบรายชื่อเพื่อรับบัตรสวัสดิการที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาเมืองชัยภูมิ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ธนาคารเปิดทำการ โดยเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เข้ามาตรวจสอบรายชื่อที่สาขา ทั้งจากคอมพิวเตอร์สำนักงาน แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถรับบัตรได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป
นายธานี บัวเกษ ชาวจังหวัดอุบลราชธานี บอกว่ารู้สึกดีใจเมื่อมีสิทธิ์ได้รับบัตร แต่อยากให้สิทธิประโยชน์บางส่วนครอบคลุมมากขึ้น เพราะสิทธิ์บางอย่างอาจไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่หมด
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันนี้ (15 ก.ย.60 ) ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ตรวจสอบด้วยตัวเองหรือขอความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยรับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ได้แก่ www.epayment.go.th www.mof.go.th และ www.fpo.go.th โดยพิมพ์เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ลงไปในช่องที่กำหนด ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบ 2.ตรวจสอบผ่านสายด่วน 6 หน่วยงาน ได้แก่ 1. Call center ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 1359 และเบอร์โทรศัพท์ของธนาคารต่าง ๆ และ 3.ตรวจสอบที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือหน่วยงานอื่นตามที่กรมการปกครองเห็นสมควร
หลังจากรัฐบาลเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 14.1 ล้านคน เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่ผ่านการตรวจสอบ 2.7 ล้านราย เหลือยอดผู้มีสิทธิ์รับบัตรสวัสดิการทั้งหมด 11.431 ล้านราย สำหรับธนาคารออมสินประชาชนลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 3.7 ล้านราย ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ 3.02 ล้านราย ลงทะเบียนผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 7.7 ล้านราย ผ่านการตรวจสอบ 6.1 ล้านราย ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไปกำหนดให้เริ่มตรวจสอบรายชื่อว่าผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่
ทั้งนี้ เปิดให้ประชาชนตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ผลการลงทะเบียนได้ที่ www.epayment.go.th , www.mof.go.th และ www.fpo.go.th โดยกรอกหมายเลขบัตรประชาชนว่ามีชื่อลงทะเบียนอยู่หรือไม่ หรือตรวจรายชื่อผ่าน ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย สำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากตรวจแล้วไม่ผ่านยื่นอุทธรณ์ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน จากนั้นจะประกาศผลภายในวันที่ 24 ตุลาคม สำหรับการตรวจสอบไม่ผ่านจะระบุเเหตุผลชัดเจน เช่น ทรัพย์สินเงินฝาก ที่ดิน รายได้เกินกำหนด โดยวันนี้ เริ่มมีประชาชนทยอยตรวจสอบรายชื่อโครงการดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้มาติดต่อลงทะเบียนกับธนาคารออมสิน 151,000 ราย ธนาคารพิจารณาแล้ว 84,000 รายในจำนวนนี้ได้รับการอนุมัติ 50,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยส่วนที่เหลือคาดว่าจะพิจารณาให้เสร็จภายในสิ้นปี 2560 เมื่อรวมแล้วคาดว่าจะให้สินเชื่อได้ 100,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 4,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันรายย่อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการยังมีปัญหาหนี้นอกระบบ จึงมีผู้ลงทะเบียนบางส่วนที่ธนาคารออมสินให้คำปรึกษาและส่งข้อมูลให้คณะอนุกรรมการไกลเกลี่ยหนี้และคณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพด้านรายได้จำนวนหนึ่ง สำหรับผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ประมาณ 14 ล้านราย มีผู้ที่แจ้งว่ามีหนี้นอกระบบจำนวน 1.3 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นรายที่ลงทะเบียนกับธนาคารออมสินประมาณ 430,000 ราย ธนาคารฯ มีแผนดำเนินการแจ้งรายชื่อให้สาขาทราบ และแจ้งให้ลูกค้ามาติดต่อสาขาที่สะดวก เพื่อให้ปรึกษาและพิจารณาด้านสินเชื่อแก้ไขหนี้นอกระบบต่อไปเช่นเดียวกัน
สำหรับโครงการสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินเป็นการให้กู้สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภายในครอบครัว โดยต้องไม่เป็นการกู้ไปปิดหนี้ในระบบก้อนเดิม (Refinance) วงเงินให้สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท สามารถยื่นขอสินเชื่อภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินโครงการผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ไม่เกินร้อยละ 0.85 ต่อเดือน โดยใช้บุคคลค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน และ/หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน .-สำนักข่าวไทย