กรุงเทพฯ 2 พ.ย. – พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน นัดผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “ทนายธรรมราช” ไปส่งพนักงานอัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลอาญาแขวงพระนครเหนือ
พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน นัดนายจารุเวศ หรือ เต้ย อายุ 28 ปี และนายพี ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายธรรมราช ทนายความ ระหว่างแถลงข่าวแจ้งความเอาผิดอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. ไปส่งพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง และส่งฟ้องศาลอาญาแขวงพระนครเหนือ
นายจารุเวศ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) ตนเดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพราะอยากเข้าไปสอบถามกับทนายธรรมราช ประเด็นที่โพสต์รูปลงเฟซบุ๊กเรื่องคนอิสลามขี้หมู ส่วนตัวมองว่า เป็นการดูหมิ่นศาสนาจึงเข้าไปยืนฟังบทสัมภาษณ์ ในระหว่างนั้นมีผู้สื่อข่าวสอบถามประเด็นศาสนาอิสลามที่ทนายธรรมราชโพสต์ แต่ทนายธรรมราชไม่ยอมตอบคำถาม ตนจึงบันดาลโทสะใช้ฝ่ามือตบปากของทนายธรรมราช
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้มีการเตรียมตัวมาทำร้ายทนายธรรมราชแต่อย่างใด ทุกอย่างเกิดเพราะบันดาลโทสะ เพราะตนรู้สึกไม่พอใจที่ทนายธรรมราชไม่ตอบคำถามเรื่องศาสนาอิสลาม ยืนยันว่าตนเป็นคนทำร้ายร่างกายเพียงคนเดียว ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ไม่เกี่ยวข้อง เพียงแค่มาเป็นเพื่อน และไม่มีใครว่าจ้างให้มาก่อเหตุ
ส่วนประเด็นที่ทนายธรรมราชยืนยันว่าจะเอาผิดตนในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายนั้น ยืนยันว่าตอนเกิดเหตุทนายธรรมราชก็มีการทำร้ายตนเองด้วยเช่นกัน ตนมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นควรโดนข้อหาสมัครใจทะเลาะวิวาท และโดนคดีด้วยกันทั้งคู่ หลังจากนี้ตนจะเดินทางไปดำเนินการยื่นเรื่องประกันตัวที่ศาลอาญาแขวงพระนครเหนือ แต่หากศาลไม่ให้ประกันตัว ตนก็ยอมรับในความผิด
ด้านทนายธรรมราช เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังเดินทางไปที่ศาลแขวงพระนครเหนือ เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัว และหลังจากนี้จะเดินทางไป สน.พหลโยธิน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม
นายจารุเวศได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เป็นเงินสด 50,000 บาท โดยพนักงานสอบสวนนัดให้ไปที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ช่วงเช้าที่ผ่านมา (2 พ.ย.) โดยนายจารุเวศให้การรับสารภาพ
ส่วนนายพี ผู้ที่ร่วมก่อเหตุ ให้การปฏิเสธ และให้ประกันตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ใดๆ เนื่องจากมาพบพนักงานสอบสวนเอง จึงนัดให้ไปพบพนักงานอัยการ เพื่อฟังคำสั่งฟ้อง
พนักงานสอบสวนจึงดำเนินคดีกับทั้งสอง ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-414-สำนักข่าวไทย