ก.ล.ต.-ตลท.เอ็มโอยูเพิ่มกำกับดูแลตลาดทุน สร้างความเชื่อมั่น

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. – ก.ล.ต.-ตลท.ลงนามเอ็มโอยู เพิ่มกำกับดูแลตลาดทุน สร้างความเชื่อมั่น รวมทั้งพัฒนาตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกันพิจารณาคำขอ Backdoor Listing, Resume Trading เพื่อให้กระบวนการพิจารณามีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่


วานนี้ (29 ต.ค.) นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ได้ปรับปรุงเพิ่มเติมจากฉบับเดิม เพื่อยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้กรอบกฎหมายและกฎเกณฑ์ของแต่ละองค์กร เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นของ 2 องค์กรในการกำกับดูแล เพื่อให้ตลาดทุนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นธรรม น่าเชื่อถือ และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน รวมทั้งพัฒนาตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจประเทศต่อไป

เอ็มโอยู ฉบับนี้เป็นการดำเนินการให้ 2 องค์กรร่วมทำงาน ในงานด้านกำกับดูแลให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน รวมถึงสอดรับกับระบบนิเวศและการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุน ได้แก่ 1. การกำกับดูแลบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน 2. การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ 3. การติดตามดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนและการบังคับใช้กฎหมาย และ 4. การออกระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ


อีกทั้งจะเพิ่มการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลการกำกับดูแลระหว่างกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ร่วมกันพิจารณาคำขอกรณีการจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) การขอย้ายกลับมาซื้อขายของบริษัทจดทะเบียนหลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) เพื่อให้กระบวนการพิจารณามีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ และยังจะมีการร่วมกันกำหนดหรือปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หากเห็นว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุน ป้องปราม หรือยับยั้งพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรมในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรยังมีการหารือในประเด็นที่จะขับเคลื่อนร่วมกันที่สำคัญ ดังนี้
(1) การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับการพัฒนาการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) การสนับสนุนการเพิ่มมูลค่า (value up) ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพและมูลค่าของตัวเอง สื่อสารกับนักลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้สนับสนุนการขยายรายชื่อหลักทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนได้
(3) การส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามมาตรฐาน International Sustainability Standards Board (ISSB) ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินการ และการทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน
(4) การส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีความรู้ (investor empowerment) ผ่าน Open Data ของภาคตลาดทุนและภาคการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถใช้ข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เบื้องหลังการถ่ายทอดขบวนเรือพระราชพิธีฯ

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 ประเทศไทยมีพระราชพิธีสำคัญคือ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

ข่าวแนะนำ

ลูกสาวชัยชนะ

“ชัยชนะ” เผยลูกสาว ถูกคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญ 6 แสน จี้ นายกฯ แก้

“ชัยชนะ” ปธ.กมธ.ตำรวจ เผยลูกสาว ถูกคนอ้างเป็นดีเอสไอ วิดีโอคอลหลอกรีดเงินสูญ 6 แสน ประฌามพฤติกรรมเลวทราม จี้ ผบ.ตร.-นายกฯ แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์

ราคาทองคำ

ราคาทองเช้านี้ ขยับทำนิวไฮอีก ทองแท่ง 44,350 บาท

ราคาทองคำไทยเช้านี้ ทำ All time high อีกครั้ง ตามตลาดโลก จากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ทนาย “บอสพอล” เผยแม่ข่ายกว่า 100 คน จ่อถอนแจ้งความหลังเข้าใจผิด

ทนายเตรียมเข้าเยี่ยม “บอสพอล” หลังเรือนจำมีการแยกแดน พร้อมเผยมีแม่ข่ายกว่า 100 คน เตรียมถอนแจ้งความ หลังเข้าใจผิด

นายกฯ เปิดงานสัมมนาเศรษฐกิจไทยประจำปี 2567

นายกฯ เปิดงานสัมมนาเศรษฐกิจไทยประจำปี 2567 ย้ำ​ CEO​ มีบทบาทสำคัญ​ในการพัฒนาเศรษฐกิจทำให้ประเทศชาติ-รัฐบาลมั่นคงขึ้น บอก​ พร้อมรับฟังความเห็นเพื่อแก้ปัญหา​ ยัน หนุนผู้ประกอบการมีนโยบายลดต้นทุน-ซอฟต์โลน