หญิงไทยโกงสินค้าแบรนด์เนมที่สิงคโปร์เจอคุก 14 ปี

สิงคโปร์ 29 ต.ค.- หญิงไทยวัย 30 ปี ที่ถูกทางการสิงคโปร์จับกุมเมื่อ 2 ปีก่อน กรณีฉ้อโกงสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 200 คน ถูกศาลสิงคโปร์ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 14 ปี


เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะสเตรตส์ ไทมส์ ของสิงคโปร์ รายงานว่า ศิริวิภา พันสุข หญิงไทยวัย 30 ปี เข้ารับฟังการตัดสินของผู้พิพากษาในคดีนี้ผ่านระบบวิดีโอลิงก์ในวันนี้ และเธอพยักหน้ายอมรับเมื่อผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 14 ปี

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ศิริวิภา ซึ่งถูกตั้งข้อหาทั้งหมด 180 ข้อหา ยอมรับสารภาพผิด 30 ข้อหา รวมถึงข้อหาฉ้อโกงและดำเนินธุรกิจโดยฉ้อฉล ด้วยการเก็บเงินค่ากระเป๋าแบรนด์เนมและนาฬิกาหรูมูลค่ากว่า 25 ล้านดอลลาร์ (กว่า 840 ล้านบาท) ทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งซื้อของลูกค้าได้ มีลูกค้าได้รับความเสียหานกว่า 200 คน


ทั้งนี้ ศิริวิภา และ พี เจียเผิง สามีชาวสิงคโปร์ วัย 29 ปี ตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อปี 2565 จากการที่พัวพันกับคดีฉ้อโกงสินค้าแบรนด์เนมมูลค่า 32 ล้านดอลลาร์ โดยระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงสิงหาคม 2565 มีการแจ้งความถึง 187 รายการต่อบริษัทของทั้งคู่ ได้แก่ เทรดเนชัน (Tradenation) และเทรดลักชูรี (Tradeluxury) เนื่องจากไม่สามารถทำตามคำสั่งซื้อได้ แม้จะมีการชำระเงินครบถ้วนแล้วก็ตาม

ศิริวิภา และ พี เจียเผิง แต่งงานกันเมื่อเดือนกันยายน 2563 จากนั้นในเดือนพฤษภาคม 2564 ได้เปิดบริษัทเทรดเนชันเพื่อขายนาฬิกาหรู และไม่ถึงหนึ่งปีต่อมา ได้เปิดบริษัทเทรดลักชูรีเพื่อขายกระเป๋าหรู แม้บริษัทจะประสบปัญหาทางการเงิน บริษัทของเธอก็ยังคงรับคำสั่งซื้อและเก็บเงินจากลูกค้า แต่แทนที่จะทำตามคำสั่งซื้อ ศิริวิภากลับนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมูลค่า 58,000 ดอลลาร์ และซื้อบ้านมูลค่ากว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ในกรุงเทพฯ

ต่อมา ศิริวิภาและสามี ถูกทางการสิงคโปร์ยึดหนังสือเดินทางระหว่างสอบสวน แต่ทั้งคู่ตัดสินใจหลบหนีจากสิงคโปร์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ด้วยการซ่อนตัวในตู้คอนเทนเนอร์รถบรรทุก ก่อนถูกจับกุมที่เมืองยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน และถูกส่งตัวต่อให้ทางการสิงคโปร์ ส่วนชายมาเลเซีย 2 คน ที่มีส่วนช่วยทั้งสองหลบหนีออกจากสิงคโปร์ ถูกศาลตัดวินจำคุก 1 ปีตั้งแต่เดือนกันยายน 2565


.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”