ทำเนียบ 2 เม.ย.- นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในรอบ 66 ปี หลังสถาปนาความสัมพันธ์ พร้อมหารือข้อราชการแลกเปลี่ยนมุมมองความท้าทายระหว่างประเทศ ยกระดับความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ จำนวน 8 ฉบับ
น.ส.แพทองธาร ขินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายเค พี ศรรมะ โอลี นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลและภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ถือเป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเนปาลในปี 2502 โดยผู้นำทั้งสอง ได้ร่วมพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส ได้เชิญนายกรัฐมนตรีเนปาลและภริยา ถ่ายภาพและลงนามในสมุดเยี่ยมพร้อมชมของที่ระลึก ต่อด้วยการหารือข้อราชการเต็มคณะ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความท้าทายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือภายใต้กรอบพหุภาคี เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้า-การลงทุน เกษตรกรรม สาธารณสุข และอุตสาหกรรมบริการ ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์


หลังเสร็จสิ้นการหารือแล้ว นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีเนปาล ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและเนปาล จำนวน 8 ฉบับ ได้แก่
1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวไทย – เนปาล
2.ความตกลงทางวัฒนธรรม ไทย – เนปาล
3.บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับสหพันธ์หอการค้าและ อุตสาหกรรมแห่งเนปาล (Federation of Nepalese Chambers of Commerce & Industry: FNCCI)
4.บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมแห่งเนปาล (Confederation of Nepali Industries: CNI)
5.บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้า bulla (Nepal Chamber of Commerce)
6.บันทึกความเข้าใจระหว่างคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กับสถาบัน Nepal Netra Jyoti Sangh (NNJS)
7.บันทึกความเข้าใจระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับบริษัท Jantra Agro and Forestry
8.บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสยามกับมหาวิทยาลัยกาฐมาณฑุ
จากนั้น เวลา 11.50 น. นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีเนปาล ได้ร่วมกันแถลงข่าว


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับผู้นำเนปาลและคณะเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 66 ปี ไทยและเนปาลมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมายาวนาน มีรากฐานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกัน การเยือนครั้งนี้จะช่วยกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้น และเปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับความร่วมมือในอนาคต ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือในด้านพลังงาน โดยไทยชื่นชมเนปาลในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และการพัฒนาโครงการพลังงานน้ำ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าควรส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเสริมสร้างความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ลดอุปสรรคทางการค้า และพัฒนาข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เพิ่มขึ้นจาก 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน และไทยสนับสนุนให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนในตลาดเนปาลมากขึ้น
ด้านการเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายเห็นถึงความสำคัญของการขยายเส้นทางคมนาคมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สนับสนุนการขยายเส้นทางการบินเชื่อมต่อกรุงเทพฯ – กาฐมาณฑุ พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้เปิดเที่ยวบินตรงสู่ลุมพินี
ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ไทยและเนปาลเห็นพ้องส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและการแพทย์ นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล และสายการบิน ต่างมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเนปาล
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยินดีทั้งสองยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือสำคัญจำนวน 8 ฉบับ ซึ่งเสริมสร้างความร่วมมือ และความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณเนปาลที่สนับสนุนไทยในฐานะประธาน BIMSTEC และยืนยันความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับ BIMSTEC อย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกรอบการประชุม และผลักดัน BIMSTEC ให้เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค
ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงความตั้งใจในการเสริมสร้างความร่วมมือกับเนปาลทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เคารพซึ่งกันและกัน พร้อมมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อความมั่งคั่งและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศ การมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและความตั้งใจของไทย-เนปาล ในการเดินหน้าความร่วมมือในทุกมิติ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว
ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรี ได้นำนายกรัฐมนตรีเนปาล เยี่ยมชมการแสดงผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและหัตถศิลป์ของไทย ก่อนที่นายกรัฐมนตรี และคู่สมรสเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีเนปาลและภริยา ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) .-316 -สำนักข่าวไทย