กรุงเทพฯ 17 ต.ค. – ที่ปรึกษา ศปอส.ตร. ชี้ตำรวจมาถูกทาง ทำคดี “ดิไอคอน” ตรงไปตรงมา แนะลงโทษให้เด็ดขาดจำคุกสูงสุด ฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน
นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศฯ (ศปอส.ตร.) และอดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินโยบายตำรวจแห่งชาติผู้แทนภาคประชาชน กล่าวว่า ในกรณีการสอบสวนคดีของ The iCon Group ซึ่งมีข้อกล่าวหาว่าประกอบธุรกิจไม่ตรงตามใบอนุญาต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจและติดตามอย่างใกล้ชิด โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลการจัดการเหตุการณ์นี้ เป้าหมายคือการให้ความเป็นธรรมและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย
นายนพดล กล่าวว่า พล.ต.ท.อัคราเดช ได้สั่งการให้ตำรวจเปิดบริการรับแจ้งความผ่านระบบออนไลน์และที่โรงพักทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมหลักฐานและการจัดทำบัญชีของทรัพย์สินที่ถูกล่วงละเมิด หลักฐานที่ได้รับจะถูกส่งไปยังกองปราบปรามอย่างรวดเร็ว เพื่อดำเนินการสอบสวนทันที
“ในกระบวนการสอบสวนนั้น ตำรวจมุ่งเน้นรวบรวมหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมทั้งกำหนดวิธีการสอบสวนแยกต่างหากสำหรับแต่ละกรณีที่กระทำผิดตามกฎหมายอย่างชัดเจน รวมถึงกรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นบอสระดับสูง ซึ่งอาจถูกลงโทษด้วยหลักฐานสูงสุดถึงหลักสิบปี ในการพิจารณาคดี ร่องรอยทางเทคโนโลยีดิจิทัล และคำให้การของผู้เสียหายมีบทบาทสำคัญในการพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน โดยเฉพาะในคดีที่มีบุคคลมีชื่อเสียงเกี่ยวข้อง ความยุติธรรมและความโปร่งใสในการพิจารณาคดีจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ต้องพิสูจน์” ที่ปรึกษาศูนย์ ศปอส.ตร. และอดีต ก.ต.ช.ภาคประชาชน กล่าว
นายนพดล ยังกล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และ พล.ต.ท.อัคราเดช ได้ขยายขอบเขตการสอบสวนไปยังการตรวจสอบความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ที่อาจละเลยต่อหน้าที่ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดความเสียหายต่อประชาชน หากพบว่ามีความผิดประพฤติจะมีการดำเนินการทั้งทางวินัยและทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด กระบวนการสอบสวนและการตรวจสอบได้รับการดำเนินการอย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความชัดเจน ตำรวจไทยมุ่งมั่นให้บริการแก่ประชาชนด้วยความเป็นธรรมและรับผิดชอบ การดำเนินการของตำรวจจะแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องสิทธิและสวัสดิการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเป็นการฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนในระบบตำรวจ
โดยสรุปการจัดการคดี The iCon Group โดยตำรวจไทยล่าสุดมีหลายประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.การดำเนินการโดยผู้บริหารระดับสูงจากนโยบายของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่เกาะติดเรื่องนี้ใกล้ชิด และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ให้ความสำคัญกับคดีนี้โดยตรวจสอบข้อมูลเป็นประจำทุกวัน และกำกับดูแลการดำเนินการอย่างใกล้ชิดผ่านผู้ช่วย ผบ.ตร. อย่าง พล.ต.ท.อัคราเดช ผู้มีหน้าที่หลักในการจัดการดูแลเหตุการณ์นี้ด้วยความรวดเร็วฉับไว ถูกต้องเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างมืออาชีพ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน
2.การใช้เทคโนโลยีและหลักฐานดิจิทัล ตำรวจได้ให้ความสำคัญกับการรวบรวมหลักฐานดิจิทัลและปากคำของผู้เสียหายในการสอบสวน เพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างยุติธรรมและโปร่งใส รวมถึงการใช้ระบบออนไลน์ในการรับแจ้งเหตุจากประชาชนโดยตรง
3.การตรวจสอบและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเลยหน้าที่ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อประชาชน โดยการดำเนินการทางวินัยและกฎหมายจะถูกดำเนินการอย่างเคร่งครัด
4.ความมุ่งมั่นในการปกป้องสิทธิและสวัสดิการของทุกฝ่ายการดำเนินการทั้งหมดที่ทำโดยตำรวจจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องสิทธิและสวัสดิการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นไปที่การให้บริการแก่ประชาชนด้วยความเป็นธรรมและรับผิดชอบ
“บทพิสูจน์ในการฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนต่อตำรวจครั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนถึงความพยายามของผู้บริหารงานตำรวจในการจัดการคดีอย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรม จึงขอให้ทุกฝ่ายปล่อยให้ตำรวจทำหน้าที่ด้วยความซื่อตรง ปลอดจากการกดดันจากกระแสแห่งอารมณ์และอคติในสื่อโซเชียล แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ใช้ทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลและตำรวจเดินดิน ฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน” นายนพดล กล่าว.-316-สำนักข่าวไทย